Politics

ด่วน!! ‘ศบค.ชุดใหญ่’ ยกระดับพื้นที่เป็นสีส้ม 69 จังหวัด ยันไม่ล็อกดาวน์

คุมโควิด!! “ศบค.ชุดใหญ่” ยกระดับพื้นที่เป็นสีส้ม 69 จังหวัด ไฟเขียวดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 21.00 น. เพิ่มทำงานที่บ้าน 14 วัน ยันไม่ล็อกดาวน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อพิจารณามาตรการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด สายพันธุ์โอไมครอน ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด หลังผ่านเทศกาลปีใหม่ พบว่าจุดเสี่ยงการระบาดคือร้านอาหารกึ่งผับที่ละเลยมาตรการป้องกันโรค

คุมโควิด

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากที่ประชุม ศบค. แจ้งว่า เบื้องต้นที่ประชุมมีมติให้ปรับระดับพื้นที่สีเป็นระดับสีส้ม หรือพื้นที่ควบคุมทั่วประเทศ 69 จังหวัด ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัด โดยอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 3 ทุ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาปรับระดับพื้นที่สีจังหวัด แบ่งออกเป็น

  1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 0 จังหวัด
  2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด 0 จังหวัด
  3. พื้นที่ควบคุม จากเดิม 39 จังหวัด เพิ่มเป็น 69 จังหวัด
  4. พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด จากเดิม 30 จังหวัด ลดเป็น 0 จังหวัด
  5. พื้นที่สีฟ้า (นำร่องท่องเที่ยว) คงเดิม 8 จังหวัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

คุมโควิด

พื้นที่สีส้ม 69 จังหวัด

โดยการกำหนดพื้นที่ครั้งนี้ ไม่มีพื้นที่สีแดง มีเพียงพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 69 จังหวัด ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ จ.กำแพงเพชร จ.ขอนแก่น จ.จันทบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชุมพร จ.ชัยนาท จ.ชัยภูมิ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.ตรัง จ.ตราด จ.ตาก จ.นครนายก จ.นครปฐม จ.นครพนม จ.นครราชสีมา จ.นครศรีธรรมราช จ.นครสวรรค์ จ.นราธิวาส จ.น่าน จ.บึงกาฬ จ.บุรีรัมย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ปราจีนบุรี จ.ปัตตานี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.พะเยา จ.พัทลุง จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.เพชรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จ.แพร่ จ.มหาสารคาม

จ.มุกดาหาร จ.แม่ฮ่องสอน จ.ยโสธร จ.ยะลา จ.ร้อยเอ็ด จ.ระนอง จ.ระยอง จ.ราชบุรี จ.ลพบุรี จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.เลย จ.ศรีสะเกษ จ.สกลนคร จ.สงขลา จ.สตูล จ.สมุทรปราการ จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร จ.สระแก้ว จ.สระบุรี จ.สิงห์บุรี จ.สุโขทัย จ.สุพรรณบุรี จ.สุราษฎร์ธานี จ.สุรินทร์ จ.หนองคาย จ.หนองบัวลำภู จ.อ่างทอง จ.อำนาจเจริญ จ.อุดรธานี จ.อุตรดิตถ์ จ.อุทัยธานี และ จ.อุบลราชธานี ขณะที่ พื้นที่สีฟ้า(นำร่องท่องเที่ยว) คงเดิม 8 จังหวัด ได้แก่ กทม. กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงาน และภูเก็ต

คุมโควิด

กิจกรรมที่สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

ทั้งนี้ การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 สำหรับทุกพื้นที่ คงใช้มาตรการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยให้ทำงานจากที่บ้าน (WFH) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 โดยกิจกรรมที่สามารถดำเนินการได้ คือ กิจกรรมที่รวมกลุ่ม (กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณา) สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา สถานรับเลี้ยงเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ห้องสมุด ร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด โรงแรม ร้านเสริมสวย ร้านสัก สถานบันเสริมความงาม สถานบริการเพื่อสุขภาพ นวด สปา สถานที่เล่นกีฬา สนามกีฬา ลานกีฬา สระน้ำ โรงหนัง อย่างไรก็ตาม กิจกรรมนอกเหนือจากที่กำหนด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร สามารถพิจารณาเปิด/ปิด ได้ตามสถานการณ์พื้นที่

มาตรการสถานบันเทิง

มาตรการสถานบันเทิง แผนปรับมาตรการ ระหว่างวันที่ 1-15 มกราคม 2565 เตรียมพร้อมการเปิด และขออนุญาตกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยให้ผู้ประกอบการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ระบบระบายอากาศ พนักงานรับวัคซีน 100% เตรียมพร้อมเปิดดำเนินการ ซึ่งจะพิจารณาให้เปิดดำเนินการตั้งแต่ 16 มกราคม 2565

โดยในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) สามารถเปิดบริการ ผับ บาร์ ได้ ส่วนพื้นที่สีส้ม ยังไม่อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ซึ่งให้ผู้ประกอบการขออนุญาตภายในวันที่ 15 มกราคม 2565 และเริ่มเปิดในวันที่ 16 มกราคม 2565

ทั้งนี้ หากไม่มีการระบาดให้เปิดดำเนินการต่อได้ หากมีระบาดจากสถานบันเทิง ให้พิจารณาปิด เพื่อควบคุมการระบาดและกำหนดบทลงโทษ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo