“พล.อ.ประยุทธ์” ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สมุทรปราการ เรียกหา “นันทิดา” กำชับท้องถิ่นแก้ปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องเร่งระบายน้ำ อย่าทิ้งให้ประชาชนแก้เอง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ที่สะพานยกระดับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร โดยมี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ อาทิ นายกรุง ศรีวิไล และ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ และผู้บริหารท้องถิ่น มารอให้การต้อนรับ
โดยเมื่อ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้เรียกหา น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ที่มารอให้การต้อนรับว่า “ไปไหน จะหลบข้างหลังทำไม” และกำชับให้ดูแลประชาชนหลังเกิดอุทกภัยในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยต้องเร่งสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมทักทายทีม อบจ.สมุทรปราการ ก่อนแซวประธานสภา ว่า “ดูอาวุโส”
ขณะที่ทีมสภา อบจ.บอกว่า “ขอเป็นกำลังใจให้นายกฯ” ขณะเดียวกันนายกฯ ได้ย้ำกับ ส.ส. ว่า เราเป็น ส.ส.ไม่ใช่ว่าจะให้เฉพาะความต้องการเขาอย่างเดียว จะต้องให้หลักคิดกับเขาด้วย ว่าหากต้องการอย่างนี้ จะต้องทำอย่างไร ส่วนโครงการต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ต้องเสนอเข้ามาในรัฐบาล
ทั้งนี้ ระหว่างตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยระหว่างการตรวจเยี่ยมนายกฯ ได้ทักทายให้กำลังใจประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมให้กำลังใจคณะแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยประชาชนและเจ้าหน้าที่กล่าวให้กำลังใจว่า “สู้ๆ” โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่า วันนี้อารมณ์ดีมากที่ได้มาพบปะกับประชาชน ขอให้สู้ปัญหาไปพร้อมกัน สู้เพื่อทุกคน และเพื่อประเทศชาติ เชื่อว่าพลังความร่วมมือของทุกคนจะทำให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
“ฝากให้ ส.ส.และข้าราชการ อบจ.ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น อย่าทิ้งประชาชนให้แก้ไขปัญหากันเอง ตนเองไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจ แต่ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด เพื่อทุกคนและเพื่อประเทศชาติ และแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องระมัดระวังตนเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ และปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่ง จ.สมุทรปราการ เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ประกอบกับน้ำทะเลหนุนบางช่วง ทำให้การระบายน้ำค่อนข้างช้า เกิดน้ำท่วมขัง 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง โดยหน่วยงานราชการในจังหวัดพร้อมกองทัพได้เร่งดำเนินการะบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว
ทั้งนี้ ในปี 2564 จ.สมุทรปราการ ได้ดำเนินการตามแผนงานและโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 7 โครงการ งบประมาณ 83.5846 ล้านบาท ดำเนินการโดย 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน และองค์การจัดการน้ำเสีย เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมมีพื้นท่ีรับประโยชน์ จำนวน 2,500 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 8,716 ครัวเรือน
โดยนายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้ส่วนราชการในท้องที่ รวมถึงท้องถิ่น และ ส.ส.ทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดน้ำท่วมให้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เตรียมแผนบริหารจัดการ โดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ในบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก จะต้องแก้ไขปัญหาระบายน้ำทันที หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์และเตรียมตัวอพยพ จะต้องมีการจัดหาสถานที่พักชั่วคราวให้ประชาชนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประสบปัญหาการระบาดโควิด-19 ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญที่สุด
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ที่สะพานยกระดับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ สั่งคลังเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ อวดโครงการรัฐเงินสะพัด 7.5 หมื่นล้าน!
- เปิดผลสำรวจ ‘อนาคตทางการเมือง 3 ป.’ 32.06% เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯสมัยสุดท้าย
- ‘นายกรัฐมนตรี’ จี้ทุกหน่วยเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ