ศบค.มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด วางระบบการบริหารการฉีดวัคซีนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุม ทั่วถึง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดคลัสเตอร์ใหม่ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (20 มิ.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการสนับสนุนวัคซีน สำหรับฉีดให้กับบุคลากรในสังกัดจากหลายองค์กร ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ ส่วนราชการหลายหน่วยงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมตลาดสดไทย สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย บริษัทและสถานประกอบการขนาดใหญ่
ศบค.มท. ได้แจ้งข้อมูลการขอรับการสนับสนุนวัคซีนข้างต้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผน เพื่อให้การบริหารจัดการการฉีดวัคซีน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการ และประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หารือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อวางระบบการบริหารการฉีดวัคซีนให้เป็น มาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุม ทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ เป็นไปตามมติ ศบค. และแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด
โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
- บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
- เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ในด่านหน้า และกลุ่มอาชีพเสี่ยงติดเชื้อ รวมทั้งผู้มีอาชีพ/กิจการ ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชน เช่น สาธารณูปโภค อาหาร ยา
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว
- ประชาชนทั่วไป
พร้อมสร้างการรับรู้แก่องค์กรภาครัฐ และเอกชน โรงงาน สถานประกอบการ องค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยในกรณีองค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มีความประสงค์จะขอรับวัคซีนให้กับบุคลากร สามารถแจ้งความประสงค์ไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
ในกรณีองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัด หรือองค์กรระหว่างประเทศ/หน่วยงานต่างชาติ ที่ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อขอรับวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัด โดยหาสถานพยาบาลรองรับการฉีดเอง
สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม เป็นหน่วยงานที่รับการจัดสรรวัคซีน เพื่อบริหารจัดการ และจัดแผนการฉีดวัคซีนได้โดยตรง และรวบรวมข้อมูลจากสถานประกอบการ เพื่อกำหนดสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน ทั้งในสถานพยาบาลตามสิทธิ และเชิงรุกนอกสถานพยาบาล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและให้ผู้ประกันตนได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
ทั้งนี้ ให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานระดับจังหวัด สังกัดกระทรวงแรงงาน ประสานการดำเนินงาน ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งการบริหารจัดการฉีดวัคซีนต้องเป็นไปตามเป้าหมายและความสำคัญเร่งด่วนที่ ศบค. กำหนดโดยเคร่งครัด
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน บริษัท สถานประกอบการ แคมป์คนงาน ที่มีบุคลากรจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จัดทำข้อมูลสถานที่ จำนวนบุคลากร และแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมการ กรณีเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์)
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถานประกอบการ ใช้ปฏิบัติในการควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยมอบหมายนายอำเภอ ดำเนินการแนวทางดังกล่าวในระดับอำเภอด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจาะลึก ผลข้างเคียง ‘โมเดอร์นา’ วัคซีนโควิด ที่ ‘รพ.เอกชน’ กำลังจะได้มา
- ‘ซิโนฟาร์ม’ ล็อตแรก 1 ล้านโดส ถึงไทยแล้ว ‘ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์’ ยันได้ครบทุกบริษัท
- ‘หมอธีระวัฒน์’ ยกเคสฮ่องกงฉีด ‘ซิโนแวค’ ภูมิขึ้นไม่ดี อาจต้องให้เข็ม 3