นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน ทางสมุทรสาครเราจะเฝ้าระวังเชิงรุกกันให้เข้มข้นขึ้น โดยประกันสังคมจะเตรียมการตรวจโควิดทางน้ำลาย 15,000 ราย โดยเฉพาะบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ซึ่งพบการติดเชื้อนายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ จะช่วยชี้เป้าหมายพื้นที่แออัดของสมุทรสาคร และสุ่มตรวจกันเพิ่มเติมในพื้นที่เหล่านี้อีกสัปดาห์ละ 500 คน (นอกเหนือจากกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยซึ่งต้องตรวจอยู่แล้วนะครับ)
ช่วงนี้ยังได้รับข้อมูลทั้งจากประชาชนและภาคเอกชนว่า มีแรงงานต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมาก โดยจากการเข้าจับกุมแรงงานต่างชาติในจังหวัดหนึ่ง ระบุว่า สมุทรสาครและกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของกลุ่มนี้ ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอีกครั้ง
สำหรับประเด็นนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจค้นตามเบาะแส ที่แจ้งมาทันที และหลังจากนี้เราจะตรวจค้นเชิงรุกกันอีกอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเข้าแรงงานต่างชาติทั้งหมด เพื่อหารือแนวทางทำงานร่วมกันให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สบายใจเลย
ท่ามกลางวิกฤตเช่นนี้ คนไทยด้วยกันเองกลับ “เปิดประตูบ้าน” ลักลอบทำเรื่องผิดกฎหมายเพราะหวังผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงิน โดยไม่คิดเลยว่ามันจะกระทบกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทำลายสวัสดิภาพและสร้างปัญหาปากท้องของ “คนบ้านเดียวกัน” ทั้งที่รู้ว่าทุกคนกำลังย่ำแย่เต็มที
วิกฤตครั้งใหญ่ที่ผ่านมา
แม้ชาวสมุทรสาครหลายท่าน ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่ยังมีน้ำใจสนับสนุนการดูแลผู้ติดเชื้อจากพื้นที่ใกล้เคียง
ขอบคุณชาวสมุทรสาครอย่างมาก สำหรับความร่วมมือในทุกด้าน รวมทั้งคอยเป็นหูเป็นตาให้กันช่วยดูแลบ้านเรา
ผมยินดีรับฟังคำแนะนำและข้อมูลของทุกท่าน เพื่อเราจะได้ช่วยกันป้องกันสมุทรสาครให้ปลอดภัย และกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุดครับ