“ยุทธพงศ์” ลั่นค้าน “เรือดำน้ำ” ด้วยความบริสุทธ์ใจ ไม่มีเจตนาให้ร้ายกองทัพเรือ เตรียมตั้งโต๊ะแถลงปมถูกฟ้องพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 63)
จากกรณีที่ กองทัพเรือ (ทร.) เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานหมิ่นประมาทในประเด็นการจัดซื้อ เรือดำน้ำ ส่งผลให้กองทัพเรือได้รับความเสียหายนั้น
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ร้ายหรือทำลายชื่อเสียงของกองทัพเรือ
แต่ที่ต้องออกมาคัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท เนื่องจากตนทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 และ ส.ส. ซึ่งต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์จากเงินภาษีของประชาชน ขณะนี้ประชาชนกำลังอดอยากและเดือดร้อนจากปัญหาโควิด-19 อุทกภัย และปัญหาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 63) ตนจะแถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวที่พรรคเพื่อไทย
วันนี้ (4 ก.ย. 63) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.อ.อรรณพ แจ่มศรีใส ผู้อำนวยการกองกฤษฎีกา สำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือ รับมอบอำนาจจากกองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เข้าพบ ร.ต.อ.ชัชวาล ละอองบัว รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี กับ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ฐานหมิ่นประมาทกองทัพเรือ ทำให้กองทัพเรือได้รับความเสียหาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เวลาประมาณ 12.58 น. นาย ยุทธพงศ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ทำการพรรคเพื่อไทยว่า ข้อตกลงในการซื้อขาย เรือดำน้ำ ไม่ใช่สัญญาแบบรัฐต่อรัฐ (GtoG) มีการปกปิดเอกสารมาตลอด สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ กองทัพเรือไม่ชี้แจงกรณีดังกล่าวได้เลย ไม่โปร่งใสในสัญญาซื้อเรือดำน้ำ
และในวันที่ 24 สิงหาคม นายยุทธพงศ์ ยังได้แถลงต่อสื่อมวลชนอีกว่า การซื้อเรือดำน้ำไม่ชอบมาพากล กองทัพเรือดันทุรังซื้อเรือดำน้ำ อย่าผลาญเงินภาษี ซึ่งไม่ตรงต่อข้อเท็จจริง ทำให้กองทัพเรือได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง
น.อ.ฐิระชัย แก้วปาน ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญ กล่าวว่า วันนี้มาทำหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดว่า ดำเนินคดีกับใคร ข้อหาใดได้ ก่อนจะเดินทางกลับไป
ประเด็นร้อนเรื่องการจัดซื้อ เรือดำน้ำ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 เมื่อนาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เปิดแถลงข่าวในฐานะโฆษก กมธ. งบประมาณ 2564 ภายหลังประชุมคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ว่า
คณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ เห็นชอบงบประมาณจัดซื้อ เรือดำน้ำ จากประเทศจีนของกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท โดยลงคะแนน 5 ต่อ 4 เสียง
ประเด็นดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้สังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งมองว่า รัฐบาลควรนำเงินมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มากกว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำ
ต่อมา นายยุทธพงศ์ได้เปิดแถลงข่าวถึงความผิดปกติของเรื่องนี้ที่พรรคเพื่อไทย พร้อมระบุว่า เมื่อตรวจสอบสัญญาซื้อเรือดำน้ำแล้ว ไม่ใช่แบบรัฐต่อรัฐ เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลง และสัญญาที่เซ็นไปก็เป็นเพียงแค่การจัดซื้อเรือดำน้ำ 1 ลำเท่านั้น ไม่มีการผูกพันให้จัดซื้อลำที่ 2 หรือ 3
ด้านกองทัพเรือก็ได้นำข้อมูลและเอกสารออกมาตั้งโต๊ะแถลงต่อสาธารณชนอย่างเผ็ดร้อน ว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นไปอย่างถูกต้องและมีความจำเป็นต่อยุทธศาสตร์ของประเทศ
แต่ในที่สุดรัฐบาลก็ต้านกระแสสังคมไม่ไหว คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 เสียง เห็นชอบให้ตัดงบประมาณสำหรับการจัดซื้อ เรือดำน้ำ 2 ลำ ของกองทัพเรือในปีงบประมาณ 2564 ออกไป
โดยกองทัพเรือยอมให้ตัดลดงบจำนวน 3,925 ล้านบาท ออกจากงบประมาณในปี 2564 ขณะเดียวกันกองทัพเรือ และกระทรวงกลาโหมจะไปเจรจากับประเทศผู้ผลิต เพื่อให้มีเรือดำน้ำต่อไปในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นายกฯ’ ลั่น ‘กองทัพเรือ’ ยอมถอยซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ ทั้งที่จำเป็น!
- ‘สมหมาย ภาษี’ ชำแหละรัฐบาล แนะดูน้ำใจที่มีต่อคนจน จากความพยายามซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ
- ‘ดุสิตโพล’ ชี้ ‘เรือดำน้ำ-ปัญหาหนี้สิน’ ทำคนไทยวิตกกังวลมากที่สุด!
