Politics

‘กระทรวงต่างประเทศ’ ยันพร้อมช่วยคนไทยในอุซเบกิสถานกลับประเทศเต็มที่!

“กระทรวงต่างประเทศ” ขอคนไทยใน “อุซเบกิสถาน” อดทน! อย่าคิดวางแผนประท้วงเพื่อหวังกดดันให้ได้กลับประเทศไทย ยันกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถ

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้เผยแพร่คำเตือนถึงพี่น้องชาวไทยและแรงงานไทยในอุซเบกิสถาน ซึ่งอยู่ในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตฯ

เนื่องจากทราบมาว่า มีคนไทยบางคนในกลุ่มแรงงานในอุซเบกิสถาน กำลังวางแผนประท้วง เพื่อหวังกดดันให้ได้กลับประเทศไทยเร็วขึ้น ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า เรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ​เพิ่มเติมว่า มีรายงานว่า แรงงานไทยในอุซเบกิสถานตรวจพบเชื้อโควิด-19 จำนวน 27 คน จึงสร้างความวิตกกังวลในกลุ่มแรงงานไทยด้วยกัน

กระทรวงต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี แรงงานที่ติดเชื้อ ได้ถูกแยกไปกักตัว ในสถานที่แยกต่างหาก จากแรงงานคนไทยอื่นๆ และมีการดูแลรักษาตามมาตรการสาธารณสุขของอุซเบกิสถานแล้ว จึงขอให้แรงงานไทยมีความอดทนและปฏิบัติตามระเบียบที่ได้กำหนดไว้

ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำอุซเบกิสถาน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อนำคนไทยกลับประเทศ โดยคำนึงถึงทางเลือกที่สามารถทำได้ในขณะที่สนามบินนานาชาติของอุซเบกิสถานยังปิดทำการอยู่

ดังนั้น จึงขอให้แรงงานไทยในอุซเบกิสถานติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิดในช่วงที่รอรับความช่วยเหลือนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประกาศเตือนของ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ระบุว่า เรียนพี่น้องชาวไทยและแรงงานไทยในอุซเบกิสถาน ด้วยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทราบมาว่า มีคนไทยบางคนในกลุ่มของท่านกำลังวางแผนประท้วงโดยจะเผาแคมป์คนงาน เพื่อหวังจะออกสื่อ ไลฟ์สด เพื่อกดดันให้ท่านได้กลับประเทศไทยเร็วขึ้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่า สิ่งที่ท่านคิดนั้นผิด และท่านจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เดินทางกลับไทย ด้วยจะต้องถูกจับดำเนินคดีและจำคุกในประเทศอุซเบกิสถาน กว่าจะได้เดินทางกลับไทยอาจเป็นเวลา 10 ปีหรือ 15 ปี

กระทรวงต่างประเทศ

ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเตือนท่านด้วยความห่วงใยที่มีเสมอมา ขอให้ท่านมีความอดทนและเรียนรู้ที่จะรอเพื่อจะได้กลับบ้าน แต่ท่านจะต้องทำตามระเบียบที่ต่างประเทศกำหนดไว้ อย่าได้ทำตามใจตนเอง มิฉะนั้น ทุกอย่างที่กำลังเดินหน้าอาจกลับต้องมาเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่ เมื่อรัฐบาลอุซเบกิสถาน ปฏิเสธคำขอของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ขออนุญาตพาท่านเดินทางกลับ เพราะต้องการดำเนินคดีตามกฎหมายกับท่านก่อน

คนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งหนใด ท่านคือตัวแทนของประเทศไทยเสมอ หากท่านทำอะไรไปในทางที่ดี ก็จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ หากท่านตัดสินใจทำอะไรในทางไม่ดี ก็จะทำให้ประเทศไทยเสียเครดิตกับต่างชาติและต้องใช้เวลากอบกู้ชื่อเสียงอีกนับร้อยปี

สิ่งที่ท่านคิดจะเผาหรือทำลายแคมป์คนงาน เพื่อระบายอารมณ์หรือประท้วงกับการที่ยังไม่ได้เดินทางกลับไทยนั้น ขอเรียนว่า ท่านไม่ได้เพียงแต่ทำลายบ้านเมืองคนอื่น ไม่ได้ทำลาย COVID-19 แต่ท่านกำลังจะทำลายตัวเอง และที่สำคัญที่สุดท่านกำลังทำลายประเทศไทย เพื่อนท่านจะได้กลับบ้านแต่ท่านจะไม่ได้เดินทางกลับ ท่านจะต้องถูกจับและถูกจำคุกในฐานะผู้วางเพลิง ชีวิตท่านคงจะอยู่ในเรือนจำและมีชีวิตที่ลำบากกว่าปัจจุบันอย่างแน่แท้

พี่น้องแรงงานไทยทุกท่านโปรดเข้าใจด้วยว่า สนามบินนานาชาติของอุซเบกิสถานยังคงปิดทำการอยู่ ในขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถที่จะนำท่านกลับประเทศไทย ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายแต่เราก็มิได้ย่อท้อในการหาทางที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และประหยัดที่สุดสำหรับท่านที่ต้องการเดินทางออกจากประเทศอุซเบกิสถาน

สุดท้ายนี้ ขอเรียนวิงวอนให้ทุกท่าน หากไม่เห็นแก่คนอื่นแล้ว ท่านควรเห็นแก่ตัวเองบ้าง อย่าตัดโอกาสตัวท่านเองที่จะได้เดินทางไปพบครอบครัวของท่าน คนที่ท่านรัก ถึงแม้จะต้องรออีกสักพักแต่เราจะหาทางพาท่านกลับ ขอเพียงท่านมีความอดทน ระวังรักษาตนเอง สถานเอกอัครราชทูตฯ จะส่งข่าวให้ท่านทราบเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของสถานทูต โดยระบุว่า เรียนพี่น้องแรงงานไทย โครงการก่อสร้างในอุซเบกิสถานที่รักทุกท่าน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับทราบความเดือนร้อนของท่านจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และไม่เคยนิ่งนอนใจและได้พยายามหาทางช่วยเหลือท่านมาโดยตลอดตั้งแต่ยังไม่ปรากฏข่าวทางสื่อ

อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งประเทศอุซเบกิสถานและประเทศไทยต่างปิดน่านฟ้า ไม่มีสายการบินพาณิชย์ตามปกติ ทำให้การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เป็นไปอย่างยากลำบากและใช้เวลามากกว่าปกติ จึงไม่สามารถตอบสนองคำร้องขอกลับประเทศไทยของท่านได้ในทันที

ขอเรียนให้พี่น้องแรงงานไทยในอุซเบกิสถานทราบเพิ่มเติมว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เคยจัดเที่ยวบินพิเศษส่งแรงงานไทยที่ถูกนายจ้างลอยแพกลับประเทศไทยแล้วจำนวน 37 คน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 และจากประสบการณ์ ขั้นตอนต่างๆ ต้องใช้เวลาประสานงานร่วม 2 เดือนนับจากที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือ

จึงอยากเรียนให้ท่านทราบและเข้าใจกระบวนการทำงานในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะมีอุปสรรคและปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น กำหนดการบินของสายการบินต่างๆ เป็นต้น แต่อยากขอให้ท่านโปรดมั่นใจว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่เคยทอดทิ้งท่าน

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับท่านในครั้งนี้ ขอเรียนว่า จากการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนแรงงาน บริษัทที่อุซเบกิสถาน บริษัทจัดส่งแรงงานที่ไทย และกระทรวงแรงงาน ทำให้ทราบว่า แรงงานที่ต้องการเดินทางกลับแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1. ทำงานครบระยะเวลัญญาจ้าง 1 ปี ซึ่งเป็นแรงงานส่วนใหญ่

2. ทำงานไม่ครบระยะเวลาตามสัญญาจ้าง

สำหรับแรงงานกลุ่มที่ 1 โดยที่ท่านได้เดินทางไปทำงานที่อุซเบกิสถานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และทำงานครบสัญญาแล้ว กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้พูดคุยกับบริษัทจัดส่งแรงงานของท่าน โดยบริษัทฯ ได้แสดงความรับผิดชอบที่จะส่งท่านกลับประเทศไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังรอรายละเอียดจากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เรื่องความช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ในการเดินทางของท่านและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ท่านพึงได้รับจากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปต่างประเทศ

สำหรับแรงงานกลุ่มที่ 2 ที่ทำงานไม่ครบตามสัญญาจ้าง สถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบว่า บริษัทจัดหางานจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ดังนั้น ท่านจึงจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเดินทางกลับประเทศไทยด้วยตนเอง จึงอยากขอให้ท่านติดต่อญาติไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อติดต่อกรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางในต่างจังหวัดที่ใกล้ที่สุด เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการในการส่งท่านกลับ ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ท่านสามารถติดตามสิทธิที่ท่านพึงได้รับในฐานะสมาชิกกองทุนฯ จากกระทรวงแรงงานต่อไป

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอความร่วมมือพี่น้องแรงงานทุกท่านให้ความร่วมมือกับตัวแทนกลุ่มของท่าน ซึ่งจะเป็นผู้ประสานงานหลักกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการรับฟังข้อมูลการดำเนินการต่างๆ และขอให้รับฟังข่าวสารโดยตรงจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ทางเดียว เพื่อป้องกันความสับสนในข้อมูล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo