Politics

พ่อเมืองเชียงใหม่ ยันไม่สะดวกรับเงินจาก ‘ฌอน บูรณะหิรัญ’

เงินบริจาค ฌอน ยังไม่ชัด! “พ่อเมืองเชียงใหม่” ยันไม่สะดวกรับเงิน 1.3 ล้านบาท หากยังไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินให้กระจ่าง

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนาย ฌอน บูรณะหิรัญ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง เข้ามอบตัวที่ สภ.ปากเกร็ด เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) และแจ้งว่า จะมอบเงิน 1.3 ล้านบาท ให้กับจังหวัดเชียงใหม่เพื่อนำไปใช้สนับสนุนภารกิจดับไฟป่าว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายฌอน ส่วนตัวมองว่า ยังไม่ควรจะรับมอบเงินบริจาคก้อนนี้ เพราะนายฌอนไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินให้กระจ่าง

ขณะเดียวกัน ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง และหน่วยดับไฟป่าดูเงื่อนไขและข้อกฎหมายว่าสามารถรับเงินบริจาคได้หรือไม่ และหากนายฌอนจะขอเข้าพบในช่วงนี้คงไม่สะดวก เพราะจังหวัดอยู่ระหว่างเตรียมจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ในโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า

เงินบริจาค ฌอน

ซึ่งศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้  โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ด้านนายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบบัญชี ที่นายฌอนเปิดรับบริจาคช่วยดับไฟป่าตามที่ นายฌอน ให้ข้อมูลแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า นายฌอนได้ติดต่อเข้ามาจริงเพียง 1 ครั้ง แต่ได้ปฏิเสธไปเพราะอำเภอไม่มีหน้าที่ ในการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของใคร

“เราเกรงว่าอาจเกิดข้อผิดพลาด จะเกิดความเสียหายกับตัวนายฌอนเอง  จึงแจ้งว่าหากนายฌอนต้องการให้มีการตรวจสอบ ก็ควรแสดงหลักฐานทั้งหมดต่อสาธารณะชนทราบแทน อำเภอไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเงินบริจาคดังกล่าวตั้งแต่ต้น” นายสราวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ ทราบเพียงแต่ยอดที่นายฌอนแสดงมาว่า มีเงินโอนเข้าบัญชีจำนวน 1.3 ล้านบาท และมี statement กว่า 160 กว่าหน้า ขณะนี้ไม่มีหนังสือสั่งการมาจากทาง ผวจ.เชียงใหม่ ในเรื่องนี้ แต่หลังเกิดปัญหาขึ้น ทางอำเภอได้ทำหนังสือชี้แจงให้ทางจังหวัดทราบว่า นายฌอนไม่ได้ขออนุญาตตาม พ.ร.บ.เรี่ยไรเงินกับทางอำเภอตั้งแต่ต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (23 ก.ค.) นายฌอน บูรณะหิรัญ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบมาที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเข้าให้ปากคำ โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังถูกสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง ว่า สาเหตุที่หายไปนั้น เป็นเพราะไปเตรียมเอกสารหลักฐาน เพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ สิ่งที่ทำไป ทำให้คนเชียงใหม่รู้สึกผิดหวัง และเพิ่งรู้ว่า มีคนเชียงใหม่ แจ้งความด้วย ก่อนหน้านี้ ฌอนเข้าใจว่า การที่ต้องมาให้ปากคำที่ สภ. ปากเกร็ด เป็นเพราะมีทนายความแจ้งความ เท่านั้น จึงอยากจะขอโทษคนเชียงใหม่

ผมจะรับผิดชอบ เรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยการนำเงินที่รับบริจาคมาทั้งหมด 1.3 ล้าน ให้กับผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ให้เร็วที่สุด ตอนนี้เตรียมเงินเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการประสานงานเข้าไปมอบเงิน ผมรักเมืองนั้น และอยากจะมีบทบาทช่วยเมืองนั้น ผมมีเจตนาทำประโยชน์เพื่อสังคมทุกอย่าง“ฌอนบูรณะหิรัญกล่าว

ส่วนเรื่องการนำเงินบริจาคไฟป่า ไปใช้เรื่องโควิด-19 นั้น ฌอน ระบุว่า เป็นเพราะ ในช่วงที่กำลังหาเครื่องเป่าแรงดันสูง ขาดตลาด จึงเปลี่ยนใจ มองหาหน้ากากกันควันแทน ซึ่งคนขาย แจ้งว่า หาได้แต่หน้ากาก N95 ที่ต้องใช้กับโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้น ประเทศกำลังประสบปัญหาโควิด-19 และโรงพยาบาลก็ขาดแคลนหน้ากาก N95 ตอนนั้น ตัวเองเข้าใจว่า หาเจอสถานที่ที่สามารถซื้อหน้ากาก n95 ให้โรงพยาบาลได้ จึงทำไป แต่พึ่งรู้ว่าทำไม่ได้

ผมยืนยันว่า มีเจตนาบริสุทธิ์ จริงๆ อยากใช้เงินนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ทางสังคม มีใบเสร็จยืนยันทุกอย่าง ที่ใช้จ่ายไป ตัวเองช่วยซื้อหน้ากาก N95 ให้กับ 21 โรงพยาบาล 1 โรงเรียน 1 สถานที่พักพิง” ฌอนบูรณะหิรัญ กล่าว

ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้ ฌอนอัดคลิปชี้แจง แต่มีการ jump cut หลายช็อต นั้นเป็นเพราะว่า ช่วงนั้นตัวเองรู้สึกไม่มั่นใจ เครียดกับข่าว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันพูดยากตอนนั้นเลยต้องตัดต่อ สภาพจิตค่อนข้างต่ำ พูดยากตอนนั้น ต้องขอโทษด้วย

เมื่อถามถึงเงินจำนวน 2.5 แสนบาท ที่นำไปซื้อโฆษณาโพสต์ในเฟซบุ๊กนั้น ทนายบอกว่า จริงๆ แล้วเป็นการสร้างสื่อรณรงค์การดับไฟป่า ซึ่งฌอนได้ให้ปากคำกับตำรวจไปแล้ว และเป็นสิ่งที่ฌอนคิดเอาเองว่า เป็นการรณรงค์แบบยั่งยืน ให้เรื่องไฟป่าได้มีคนรับรู้ตระหนักป้องกัน จึงทำโครงการขึ้นมา และไม่ได้มีการซื้อสื่อส่วนตัวแต่เป็นการซื้อสื่อในเฟซบุ๊กและเป็นยอดเดียวกับที่หักบัตรเครดิตในสเตจเม้นท์ที่นำแถลงไปก่อนหน้านี้

ส่วนเรื่องในคลิปที่ได้อ่านที่แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วอ้างชื่อผู้ใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่มาตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนนั้น ฌอน กล่าวว่า ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้มาตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และทางผู้ว่าเองก็ได้ให้ คนของท่านมาตรวจสอบแล้ว

ส่วนกระแสที่ตนรับงานเพื่อโปรโมทรัฐบาลหรือไม่นั้น ฌอน กล่าวว่า ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเนื่องจากตนชอบรับงานที่เกี่ยวกับสังคมอยู่แล้ว เป็นการรับผ่านออแกไนซ์เซอร์ และประเด็นที่ตนรู้จักกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นการส่วนตัวหรือไม่นั้น ตนก็ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน ทนาย กล่าวแทนว่า ต้องขึ้นอยู่กับเจตนาของการใช้เงิน เพราะเงินโอนมาเพื่อทำกิจกรรมทางสังคม ส่วนหนึ่งได้ใช้ในไฟป่า ส่วนหนึ่งในในเรื่องโควิด การเปลี่ยนวัตถุประสงค์ไม่ได้ตั้งใจฉ้อโกงประชาชน จึงขอแสดงความเสียใจเพื่อขอบริจาคเงิน โดยไม่ได้เจตนาตั้งแต่ต้นว่าจะให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

ขณะที่ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า นาย ฌอนบูรณะหิรัญ ชี้แจงในประเด็นที่ถูกกล่าวหา 3 ข้อหา โดยปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุที่สอบปากคำนาน เพราะต้องตอบทุกคำถาม รวมทั้งการนำเงินไปจ่ายค่าบัตรเครดิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องสอบทุกมิติและยังได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo