“อธิบดีกรมราชทัณฑ์” เผยสอบปากคำ “ทักษิณ ชินวัตร” แล้วตั้งแต่เดือนมกราคม ยันอายัดตัวที่โรงพยาบาลตำรวจได้ทันที หากผ่านเกณฑ์พักโทษกรณีพิเศษ
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดี กรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. และพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งการขออายัดตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากคดีคงค้างเดิม ซึ่งผมได้รับการยืนยันจาก ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำนายทักษิณเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่มีหนังสือตอบกลับจากตำรวจ ปอท. ไปยังผู้ร้อง คือ นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ได้ทำหนังสือไปที่สำนัก งานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 นั้น อาจจะเพราะว่าในตอนนั้นพนักงานอัยการยังไม่ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีระหว่างการอายัดตัวผู้ต้องขังทาง ผบ.เรือนจำฯ จะไม่ได้มีการรายงานมาที่กรมราชทัณฑ์ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจและอัยการเจ้าของคดีในการสอบสวนปากคำ อีกทั้งหนังสือขออายัดตัวผู้ต้องขังถือเป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องของข้อตกลงระหว่างตำรวจและกรมราชทัณฑ์
“สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกศาลมีคำพิพากษาตัดสินคดีไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าในระหว่างนั้นยังมีการพิจารณาในคดีอื่น ทางตำรวจก็จะแจ้งการอายัดขอตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำฯ เพื่อให้เรือนจำฯ รู้ว่าถ้าครบวันจะปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือได้รับการพักโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรู้ก่อน ซึ่งทางเรือนจำฯ จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัวผู้ต้องหานำส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการในคดีที่ขออายัดตัว ส่วนหากจะมีการขอประกันตัวใด ๆ ก็เป็นไปตามกระบวนการ” นายสหการณ์ กล่าว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าเรื่องพิจารณารายชื่อผู้ต้องขังที่ผ่านเกณฑ์โครงการพักการลงโทษทั้งในกรณีปกติและกรณีมีเหตุพิเศษว่าเป็นอย่างไรบ้างนั้น นายสหการณ์ เผยว่า ส่วนเรื่องรายชื่อผู้ต้องขังทั่วประเทศที่เข้าเกณฑ์จะได้รับการพักการลงโทษไม่ว่ากรณีปกติ หรือกรณีมีเหตุพิเศษ ทราบว่าได้มีการประชุมไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้รับจำนวนรายชื่อผู้ต้องขังหลายพันราย จากทั้งหมด 143 เรือนจำทั่วประเทศ
“ตอนนี้รายชื่อทั้งหมดอยู่ในชั้นของกรมราชทัณฑ์ เพื่อเตรียมเสนอไปยังคณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษ จากนั้นจึงจะนำเสนอไปยังชั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งแต่ละขั้นตอนค่อนข้างมีความละเอียด เพราะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้ต้องขังให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ควรได้รับ” นายสหการณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถให้คำยืนยันได้ว่ารายชื่อของนายทักษิณอยู่ในเกณฑ์ผ่านเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอให้ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการฯ แต่หากพูดตามหลักการ อดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นผู้ต้องขังสูงวัย มีอาการเจ็บป่วย และรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 แต่อย่างไรคณะกรรมการฯ ก็จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และถ้ารายชื่อได้รับการรับทราบในชั้นกระทรวงยุติธรรม ก็จะต้องมีการแจ้งไปยังตำรวจ ปอท. เพื่อให้ดำเนินการเข้าอายัดตัวผู้ต้องหาในสถานที่คุมขังได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อัยการสูงสุด’ แจ้งอายัดตัว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ คดีม.112 กับกรมราชทัณฑ์แล้ว
- ‘พิชิต’ มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์! ‘ทักษิณ’ ไม่ถูกอายัดตัว โยนถาม ‘ทวี’ ปมพักโทษกรณีพิเศษ
- ‘พิธา’ โต้ก้าวไกลไม่กล้าแตะ ‘ทักษิณ’ ยันทำงานตรงไปตรงมา บอกรัฐบาลเตรียมตัว!
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg