Politics

มติฝ่ายค้าน โหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบ 67 วาระแรก

มติฝ่ายค้าน โหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบ 67 วาระแรก อัด “สอดไส้-ไม่ตรงปก” ไม่ช่วยแก้ปัญหาประชาชนแท้จริง

ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก (รับหลักการ)

โหวตคว่ำ1

โดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันนี้ (5 ม.ค.) เข้าสู่วันสุดท้ายของการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 67 ซึ่งในช่วงเวลาไม่เกิน 20.00 น.จะมีการลงมติในวาระรับหลักการ

“พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือความเห็นต่อ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ไม่ได้สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสิ่งแวดล้อม PM 2.5 วิกฤตการศึกษา วิกฤตเด็กเกิดน้อย วิกฤตสังคมผู้สูงวัย รัฐบาลจัดทำงบประมาณที่ไม่แตกต่างจากรัฐบาลเก่า ตั้งงบไม่ได้สัดส่วนกับความรุนแรงของปัญหา ยังพบการสอดไส้งบไม่ตรงปกไม่ตรงแผน การบรรจุงบที่ไม่ควรจะมี การจัดสรรงบที่ไม่เพียงพอต่อความจำเป็น ประมาณการรายได้ที่เกินจริง มุ่งใช้งบประมาณโดยไม่มองถึงอนาคต” นายชัยธวัช กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 วัน ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 67 ฝ่ายค้านได้วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลหลายอย่าง แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชี้แจงคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม บางคำถามไม่มีคำตอบ การชี้แจงก็ขาดวุฒิภาวะหรือให้ข้อมูลที่บิดเบือน ตอบตามคำถามชงกันเองกินกันเองในพรรคเดียวกัน รัฐมนตรีบางกระทรวงไม่ให้เกียรติเงินภาษีของประชาชนด้วยการลุกขึ้นชี้แจงหรือให้คำตอบแก่สภา พรรคฝ่ายค้านจึงมีมติว่าจะลงมติไม่รับหลักการกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้

ด้าน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า งบฯ ปี 67 ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศได้ งบประมาณทำฝนเทียมก็มีน้อย นักบริหารไม่มีใครออกมาพูดเรื่องฝนหลวงของกระทรวงเกษตรฯ หากยังอยู่ในลักษณะนี้ไม่ว่าภาคเกษตรกรหรืออุตสาหกรรม ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชนได้ ราคาภาคเกษตรตกต่ำ ความยั่งยืนของประชาชนต้องบูรณาการ เราในฐานะฝ่ายค้าน อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราสนับสนุน แต่ถ้าประชาชนไม่มีความสุขทำแล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น พวกเราไม่ขอสนับสนุน และพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงมติเราว่า เราจะไม่รับหลักการ จึงขอฝากไปที่กรรมาธิการให้นำไปแก้ไขและดูแล

ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า งบลงทุน 710,000 ล้านบาท ไปลงอยู่ 4 กระทรวง คือ กระทรวงคมนาคม กลาโหม มหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งงบดังกล่าวเป็นงบงบผูกพันจากรัฐบาลที่แล้ว เป็นงบลงทุนที่เกิดในรัฐบาลนี้จริงๆ เพียง 200,000 กว่าล้านบาท รัฐบาลที่แถลงไว้กับรัฐสภาวันที่ 11 กันยายน 66 คงไม่สามารถนำมาพัฒนาในส่วนตนเองได้ อีกทั้งการการศึกษาของไทยก็ได้งบน้อย ตนจึงอนากให้นำเงินมาลงทุนในด้านการศึกษาและสาธารณสุข เราอยากจะเห็นและดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เราไม่สามารถรับหลักการในครั้งนี้ได้

ส่วน นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรคฝ่ายค้าน คือเสียงสะท้อนของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารจัดการประเทศ 9 ปีที่ผ่านมา การตัดสินใจครั้งนี้ที่เราไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะเรายังไม่ไว้ใจการบริหารประเทศของนายกฯ เศรษฐา เรายังไม่เห็นศักยภาพในการบริหารงบประมาณ

เมื่อถามว่า จะมีบทลงโทษอย่างไร หากโหวตสวนกลับมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษ เพราะเชื่อมั่นว่ายังไงก็โหวตไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งทุกพรรคมีเอกภาพ ไม่มีการแตกแถว พรรคประชาธิปัตย์ ได้คุยกันแล้วเมื่อวันที่ 2 มกราคม มีมติจะไม่รับหลักการ

เมื่อถามว่า หากมีเสียงแตกไปสนับสนุนงบ จะทำอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าพึ่งคิด เพราะตนมั่นใจว่าไม่มีการเสียงแคกแน่นอน อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ได้บอกไว้ ถึงจะมี ส.ส.ลาป่วย เราก็จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน การลงมติพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นการแสดงถึงจุดยืน และท่าทีว่าเรามีความคิดเห็นอย่างไรต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการเปลี่ยนแปลงนัยยะสำคัญ และกลางปีหน้าจะมีร่าง พ.ร.บ.ปี 68 หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่มีข้ออ้างในการจัดทำงบประมาณ

เมื่อถามว่า มองการทำงานของฝ่ายค้านเป็นอย่างไรบ้างกับศึกงบประมาณครั้งแรก นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนได้ประสานงานกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าเราจะนัดประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการกลางสัปดาห์นี้ เพื่อวางแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นเอกภาพ ทำงานตามคาดหวังของประชาชนให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า ได้ประเมินภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้านในครั้งนี้อย่างไร เพราะประชาชนดูเหมือนว่ายังทำงานไม่เต็มที่ นายชัยธวัช กล่าวว่า มีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งหลายส่วนก็ชื่นชมว่าเป็นการอภิปรายที่มีฐานข้อมูลสร้างสรรค์ มีข้อวิพากษ์วิจารณ์และมีข้อเสนอแนะ แต่หลายคนก็รู้สึกว่าไม่ได้ดุเดือด

อยากจะบอกกับประชาชนว่า ไว้ค่อยดูการอภิปรายที่ดุเดือดในอนาคต เพราะการอภิปรายงบฯ ควรจะให้ข้อมูลแก่ฝ่ายบริหาร และประชาชน ไม่ได้ดุเดือดเผ็ดร้อนผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo