ศาลอาญากรุงเทพใต้ สั่งจำคุก “รุ้ง–ไมค์–ครูใหญ่” คนละ 9 เดือนไม่รอลงอาญา คดี “ม็อบ 10 กุมภา” ปี’64
ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษา คดีดำ อ.171/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ จาดนอก, และ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มราษฎรเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ,พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา กรณีม็อบทำกิจกรรม “ตีหม้อไล่เผด็จการ” ที่บริเวณด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องไปจนถึงด้านหน้า สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564
คำฟ้องอัยการระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 จำเลยทั้งสามกับนักกิจกรรมรายอื่นอีก 8 ราย ได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยทั้งสามได้ร่วมกันจัดการชุมนุมทางการเมืองในนามกลุ่ม #ราษฎร ในระหว่างที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่บริเวณด้านหน้าของของหอศิลป์ แยกปทุมวัน กทม. โดยไม่มีมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในระหว่างการชุมนุม ทั้งสามและกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ใช้โทรโข่งขยายเสียงปราศรัย อันเป็นการใช้เครื่องขยายเสียง ยังได้ร่วมกันตั้งเวทีและเก้าอี้บนถนนบริเวณหน้าหอศิลป์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร มีการพ่นสีลงบนถนนหน้าห้างมาบุญครอง มีข้อความว่า #ราษฎรพ่อทุกสถาบัน ผู้ชุมนุมยังได้เดินเท้าไปยัง สน.ปทุมวัน มีจำนวนราว 1,000 คน ทั้งสามซึ่งมีหน้าที่สั่งการในการชุมนุมได้ปล่อยให้ผู้ชุมนุมกีดขวางทางสาธารณะ จนเป็นอุปสรรคต่อการจราจร ทั้งสามและนักกิจกรรมรายอื่นยังได้ร่วมกันปราศรัยที่หน้า สน.ปทุมวัน ให้ปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุม จากนั้นผู้ชุมนุมได้กระจายตัวล้อม สน.ปทุมวัน พร้อมทั้งปา ประทัด ขวดน้ำ และของแข็งเข้าไปในพื้นที่ อันเป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยมีจำเลยทั้งสามเป็นผู้สั่งการ มีเจตนาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังวางแนวป้องกันสถานที่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ 7 ราย ได้รับบาดเจ็บ รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณ สน.ปทุมวัน ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการทำให้เกิดความเสียหาย คิดเป็นค่าเสียหาย 155,586 บาท
จำเลยให้การปฏิเสธ โดยวันนี้จำเลยทั้งสามเดินทางมาฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, กีดขวางทางสาธารณะ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 700 บาท จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลนคนละ 9 เดือน ปรับคนละ 525 บาท โดยไม่รอลงอาญา ให้ยกฟ้องข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ทำร้ายเจ้าพนักงาน, ทำให้เสียทรัพย์ และ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ
ต่อมาทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอประกันตัวจำเลย ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้จำเลยทั้งสามมีประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 25,000 บาทระหว่างอุทธรณ์คดี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘วุฒิพงศ์’ โวพรรคการเมืองรุมจีบ เชื่อไม่หลุดตำแหน่ง สส. แน่นอน
- ไปทางไหนดี ‘สส.แจ้’ สส.ปูอัด’ หลังถูกขับพ้นก้าวไกล เส้นตาย 30 วัน ชี้อนาคตการเมือง
- มินดา มีทรัพย์สิน คือใคร? สาวแซ่บที่กำลังถูกโยงข่าวนักร้องหนุ่ม ดีกรีลูกนักการเมืองดัง