คาด “ทักษิณ”‘ ได้กลับบ้านเดือนกุมภาพันธ์ 2567 แจงเข้าเกณฑ์พักโทษ หลังรับโทษมาแล้ว 6 เดือน แม้รักษาตัวอยู่ รพ.ก็ตาม!
ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงภายหลังเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแนวทางติดตามการดูแลนักโทษของระบบราชทัณฑ์ ในประเด็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหารือกันเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ว่า กมธ. ได้รับคำตอบชัดเจนในระดับหนึ่ง ใน 4 ประเด็น คือ
1. นายทักษิณ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ที่ให้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ มีทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเวรเฝ้าดูแลควบคุม ข้อครหาที่ว่านายทักษิณไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจจริง หรือกลับบ้านไปเลี้ยงหลานแล้วนั้น ตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยัน นายทักษิณยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
2. การรักษาตัวเป็นไปตาม 4 โรคสำคัญ ที่มีผลรับรองทางการแพทย์จากสิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่การผ่าตัดนายทักษิณโดยแพทย์ใหญ่ ที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เรื่องอาการป่วยและการผ่าตัด เพราะเป็นไปตามกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิผู้ป่วย และตัวแทนแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่มาชี้แจง กมธ.ในครั้งนี้ไม่ใช่แพทย์ผู้ดูแลรักษานายทักษิณ
แต่ กมธ.ให้คำแนะนำว่า ขณะนี้มีการสงสัยอาการป่วยหลายโรค แพทย์ควรชี้แจงว่า มีโรคใดที่ควรกังวล ใช้เวลาพักฟื้นเท่าใด เพื่ออธิบายให้สังคมเข้าใจ คลายความสงสัย แม้ประเด็นกล่าวจะเป็นสิทธิของผู้ป่วยและญาติไม่เปิดเผย แต่ควรอธิบายให้สังคมเข้าใจในบางระดับว่า จะต้องรักษาต่อไปอีกนานเท่าใด กมธ.แนะนำสามารถส่งข้อมูลทางลับได้ เพราะ กมธ.จะไม่นำไปเปิดเผย
3.ถ้านายทักษิณ อาการดีขึ้นจะส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ระบุว่าต้องดูอาการนายทักษิณอยู่ในเกณฑ์ใด ขึ้นอยู่กับแพทย์จะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ และเป็นสิทธิของญาติที่จะชี้แจงกับสังคมหรือไม่ โดย กมธ.ไม่ก้าวล่วง
4. กรณีรับพระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือ 1 ปี จะได้รับการลดโทษได้อีกหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ ระบุว่า เกณฑ์ขอลดโทษตามห้วงเวลาที่ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น มีช่วงเวลาตามวโรกาสพิเศษ เช่น วันที่ 5 ธ.ค. , 28 ก.ค. , 12 ส.ค.
แต่ทั้งนี้ การขอลดโทษตามเกณฑ์ดังกล่าว นักโทษต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน โดยยึดเกณฑ์เวลาที่มากกว่า ซึ่งกรณีนายทักษิณจะครบเกณฑ์รับโทษ 6 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับสิทธิการพักโทษ เพราะอยู่ในเงื่อนไขมีอายุเกิน 70 ปี แม้จะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจก็ถือว่า เข้าข่ายให้นับโทษอยู่ในเรือนจำ
ดังนั้น หากนายทักษิณรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจครบ 6 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ก็จะเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องใส่กำไลอีเอ็ม แต่อาจจำกัดพื้นที่ให้อยู่ที่บ้านในประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางไปนอกราชอาณาจักรได้
เมื่อถามว่า กมธ.ฯ ได้รับข้อมูลหรือไม่ว่า นายทักษิณต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจไปอีกนานแค่ไหน นายสมชาย กล่าวว่า เป็นประเด็นที่แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจจะพิจารณา กมธ.ไม่ค่อยได้รับคำตอบเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ เราไม่สามารถไปบังคับให้ต้องตอบ ทำได้แค่ให้คำแนะนำถ้าไม่ตอบสังคมจะมีความสงสัย หากไม่ป่วยต้องกลับเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่หากป่วยต้องชี้แจงถึงระยะเวลารักษา อยากเห็นความตรงไปตรงมา
“หากนายทักษิณตัดสินใจจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หากปล่อยให้มีความสงสัยและเกิดเป็นคลื่นใต้น้ำ อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมได้ กมธ.จะให้เวลาอีก 1 เดือนคือ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ก่อนที่นายทักษิณจะครบสิทธิการรักษาตัวนอกเรือนจำอีก 30 วัน จากนั้นจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงอีกครั้ง” นายสมชาย กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ แจงประเด็นร้อน! ยันไม่เคยบอกจะตั้ง ‘ทักษิณ’ เป็นที่ปรึกษานายกฯ
- ‘รมว.ยุติธรรม’ ไม่รู้ ‘ทักษิณ’ รักษาตัวอีกนานแค่ไหน ชี้อยู่ที่ความเห็นแพทย์!
- ‘ทักษิณ’ นอนรพ.ตำรวจยาว! แพทย์แจ้งยังรักษาไม่สิ้นสุด หลังเข้ารับการผ่าตัด