Politics

‘หมอนิธิพัฒน์’ ส่งจม.ฉบับ 2 ถึง ‘หมอชลน่าน’ เตือนบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ซ้ำเติมปัญหาสมองไหล

“หมอนิธิพัฒน์” ส่งจดหมายเปิดผนึกฉบับ 2 ถึง “หมอชลน่าน” ศิษย์รุ่นน้องร่วมบ้านริมน้ำ ห่วงนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ซ้ำเติมปัญหาบุคลากรการแพทย์สมองไหล 

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล เรื่อง จดหมายเปิดผนึกถึงศิษย์รุ่นน้องร่วมบ้านริมน้ำ ฉบับที่ 2 โดยระบุว่า

บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่

วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก นี่ก็นับได้ครึ่งเดือนหลังจากพี่ส่งจดหมายฉบับแรกออกไป ส่วนตอนนี้ตัวน้องคงเตรียมตัวมุ่งมั่นทำงานในรับผิดชอบ เพื่อสร้างชื่อให้คนเลื่องลือว่า ลูกศิริราชยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม ประกอบกิจโดยยึดโยงกับประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนพรรคพวกหรือประโยชน์ส่วนตน

วันนี้คนไทยดีใจกันถ้วนหน้า ที่รัฐบาลข้ามขั้ว (ความขัดแย้ง) และข้ามหัว (ประชาชน) ประกาศผลงานชิ้นแรกคือ ลดราคาดีเซล ลดค่าไฟฟ้า ตรึงราคาก๊าซ และอื่น ๆ อีกมากมาย

แต่หลายคนอดห่วงไม่ได้ว่า จะเป็นเพียงการดึงเงินภาครัฐในอนาคตมาใช้ก่อนเวลาแบบไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยไม่ไปแตะต้อง หรือแตะเล็กน้อยในผลกำไรของกลุ่มทุนผูกขาดที่ชักใยโครงสร้างพลังงานของประเทศ

สธ.นพ.ชลน่าน

สืบเนื่องจากใจความหนึ่งในจดหมายน้อยฉบับก่อน เรื่องนโยบาย 30 บาท วันนี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เปิดเผยถึงข้อสั่งการของนายกในที่ประชุมครม. ครั้งแรกว่า

มอบหมายให้น้องไปคิดหาทางยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้มีผลเร็วที่สุด โดยยกเรื่องการใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ว่า ต่อจากนี้จะไม่มีโรงพยาบาลประจำของแต่ละคน แต่ใครสะดวกหรือชอบโรงพยาบาลไหนสามารถไปได้หมดเลย เหมือนประกันของเอกชนดูแล

ปัจจุบันยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ของศักยภาพระหว่างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และโรงพยาบาลขนาดเล็กในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นปัญหาสำคัญและอยู่ในระหว่างรอการแก้ไข โดยปรากฏอยู่ในข้อที่ 9. การวางแผนจะพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย ในแผน 13 นโยบายสาธารณสุข ซึ่งทีมงานของกระทรวงเตรียมเปิดเผยรายละเอียดในสัปดาห์หน้า (ในรูปที่ค้นมายังขาดข้อ 13. นักท่องเที่ยวปลอดภัย…แทนที่จะเป็นคนไทยห่างไกลยาเสพติดและมลพิษในอากาศ)

นโยบายสธ

แต่การเปิดฟรีให้ประชาชนใช้บัตรทองไปรักษาได้ทุกที่โดยเสรี จะยิ่งเพิ่มความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไม่สามารถจำกัดปริมาณการให้บริการได้เหมือนโรงพยาบาลในสังกัดอื่น

และจะยิ่งไปซ้ำเติมปัญหาสมองไหลของบุคลากรในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ย้อนแย้งกับแผนข้อที่ 5. การสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากร อีกทั้งการเปิดให้รักษาโรคโดยเสรีจะเป็นอุปสรรคต่อแผนข้อที่ 6. ส่งเสริมการแพทย์ปฐมภูมิ และที่สำคัญไม่แพ้กันแต่ไม่ปรากฏในแผน คือ เป็นกับดักไม่ให้เกิดการส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคของปัจเจกชนและชุมชนมากกว่าการรักษาโรค

พี่อดคิดถึงพี่หงวน (นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์) ผู้หาญกล้าผลักดันนโยบายหลักประกันสุขภาพ (30 บาท รักษาทุกโรค) จนมีพรรคการเมืองต้นกำเนิดของน้อง ซื้อไอเดียไปสานต่อได้สำเร็จ และน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อเกิดแลนด์สไลด์ในอดีต และยังใช้เป็นต้นทุนฐานเสียงทางการเมืองสำคัญมาตราบจนปัจจุบัน

LINE ALBUM it healthcare บัตรทอง ๒๒๐๓๑๙

เท่าที่พี่เคยทำงานร่วมกับพี่หงวนตอนอยู่ในรั้วมหิดล และได้มีโอกาสร่วมดูแลปัญหาสุขภาพของพี่เขาในช่วงบั้นปลายชีวิต พี่เชื่อโดยสนิทใจว่าพี่หงวนคงอยากเห็นนโยบาย 30 บาท เป็นรัฐสวัสดิการที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม มากกว่าที่จะถูกใช้เป็นนโยบายประชานิยมทางการแพทย์ชั่วครั้งชั่วคราว เพื่อต่อลมหายใจให้กับพรรคการเมืองซึ่งเสพติดอำนาจนิยม และสถานะที่ได้เปรียบทางสังคม

ขอทิ้งท้ายฝากคำชมไปถึงหัวหน้ารัฐนาวาของน้อง ที่ให้ถ้อยคำไว้กับรัฐสภาว่า ต้องการ  พัฒนาร่วมกัน มากกว่า ปฏิรูป หน่วยงานราชการที่สำคัญโดยเฉพาะกองทัพ แต่พี่เกรงว่าคำที่เลือกใช้ให้ฟังเพราะเสนาะหูและดูดีนี้ จะเท่ากับการละเลย หรือการแกล้งมองไม่เห็นสิ่งไม่ดีที่แฝงอยู่ในระบบราชการ

ในชีวิตราชการของพี่ที่กำลังจะครบ 40 ปี เห็นว่าเนื้อร้ายนี้มีเป็นส่วนน้อย แต่ส่งผลบดบังการฉายแววอันควรของข้าราชการส่วนใหญ่ที่มุ่งทำความดีเพื่อรับใช้ประชาชน หากติ่งเนื้อเหล่านี้ตกเป็นเป้ายึดครองสำคัญ ที่ข้าราชการการเมืองใช้เข้ามาแทรกแซงข้าราชการประจำมาทุกยุคทุกสมัย และนับวันจะหนักข้อขึ้น

หากจะขลิบติ่งเนื้อร้ายนี้ออกไปบ้างเพื่อรักษาอวัยวะส่วนใหญ่ น่าจะเป็นผลดีต่อต่อสุขภาพของประชาชนและประเทศชาติในระยะยาว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo