Politics

‘เศรษฐา’ มั่นใจ มีเสถียรภาพแล้ว หลังรวมเสียงได้เกิน 300 เสียง ลั่นถ้า ‘แลนด์สไลด์’ ไม่เหนื่อยขนาดนี้

“เศรษฐา” มั่นใจรวมเสียงได้เกิน 300 มีเสถียรภาพแล้ว ระบุ ถ้าแลนด์สไลด์ไม่เหนื่อยขนาดนี้ เชื่อพรรคร่วมเข้าใจปัญหาติดหล่ม ลั่นต้องให้เกียรติทุกพรรคส่งคนนั่งครม. 

วันนี้ (12 ส.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) แสดงความมั่นใจว่า การที่พรรคเพื่อไทย สามารถรวมเสียงโหวตแคนดิเดตนายกฯ ได้ถึง 315 เสียงนั้น ถือว่ามีเสถียรภาพ แต่ถ้าต้องบริหารเรื่องความคาดหวังของแต่ละพรรคร่วม ก็ต้องมาพูดคุยถึงนโยบายรวม ซึ่งจะเป็นนโยบายของรัฐบาล ต้องมาพูดคุยกันให้ดี

shutterstock 2274897777

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า การมาเป็นผู้นำรัฐบาล ทำงานการเมือง เป็นเรื่องที่มองว่าเหนื่อยตลอด คณิตศาสตร์ที่ออกมาจากการเลือกตั้ง ตัวเลขที่ออกมายิ่งทำให้เหนื่อย โดยเรื่องนี้จะง่ายขึ้นถ้าเพื่อไทยได้แลนด์สไลด์ แต่ก็ไม่ได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับ และอยู่กับความเป็นจริงว่าไม่ได้

ต่อข้อถามที่ว่า พากพรรคเพื่อไทยได้เสียงแลนด์สไลด์ เป้าหมายของพรรคอาจเป็นอย่างหนึ่ง แต่พอเป็นพรรคร่วมเช่นนี้ เป้าหมายจะเหมือนกันหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 3 เดือน ถือเป็นครั้งยาวนานที่สุดในการตั้งรัฐบาล นักการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคตกผลึกเรียบร้อยแล้วว่า เป็นเรื่องยากลำบากจึงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ปัญหาของประเทศสำคัญที่สุด

ดังนั้น หน้าที่ของผู้นำรัฐบาลก็ต้องพยายามหล่อหลอมให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และไปสู่จุดมุ่งหมายได้ จะเป็นพรรคไหนก็ตามเชื่อว่า ความเป็นห่วงบ้านเมืองต้องมีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าพรรคใดก็ตามที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ต้องเข้าใจปัญหาที่มีในปัจจุบัน ทั้งความเป็นอยู่ประชาชนที่ต้องยกระดับขึ้นมา ปัญหาของรัฐธรรมนูญ ปัญหาความขัดแย้งด้านความคิด เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจดี และจากการแถลงร่วมกันของแต่ละพรรคทุกคนเข้าใจปัญหาดี ฉะนั้นการมาร่วมด้วยช่วยกันในรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นตนเชื่อว่าต้องร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

shutterstock 2278182101

ส่วนเรื่องที่ว่า จะไม่ให้พรรคการเมืองเดิมบริหารกระทรวงเดิมหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า มองเป็นหลักการหนึ่งที่เป็นประโยชน์ โดยเรื่องที่ตัวเองจะทำหน้าที่เลือกบุคคล ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมืองหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน และต้องให้เกียรติพรรคร่วมด้วย ซึ่งตรงนี้มีความสำคัญ

สุดท้าย เมื่อถูกถามว่า ในฐานะผู้นำรัฐบาลจะสามารถบริหารให้รัฐบาลไปรอดได้หรือไม่ เพราะมีพรรคร่วมจำนวนมาก นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายรวมเป็นเรื่องสำคัญการพูดคุยกันก่อนที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล ความคาดหวังผลงานของแต่ละกระทรวง จึงเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุย และตกลงกัน ต้องตั้งเป้าหมายให้เป็นจริง และมีระยะเวลาของแต่ละภารกิจให้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

“เราอย่าบอกว่ารัฐมนตรีมาจากพรรค ก. หรือ ข. แต่เราเป็นรัฐบาลของประเทศไทย จึงถือเป็นภารกิจร่วม นายกฯ มีหน้าที่หล่อหลอมให้บรรลุไปถึงจุดมุ่งหมายให้ได้”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo