Politics

‘จตุพร’ ฟันเปรี้ยง ‘เพื่อไทย’ เป็นรัฐบาลไม่ง่าย

“จตุพร” เชื่อ “เพื่อไทย” เป็นรัฐบาลไม่ง่าย บอกการเมืองรอบนี้เหมือนจะดี แต่เละเทะกว่าทุกครั้ง คาดโหวตนายกฯ 27 .. นี้ ต้องเลื่อนออกไปแน่นอน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอนจุดล่มสลาย?” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ระบุว่า การเชิญฝ่าย 188 เสียงโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ถูกตราหน้าเป็นพรรคสืบทอดอำนาจการรัฐประหารมาหาที่พรรค ถือเป็นจุดล่มสลายของพรรคเพื่อไทย (พท.) อย่างเละเทะที่สุด และยังตระบัดสัตย์ต่อประชาชนได้ชัดเจน

เพื่อไทย 4

นายจตุพร กังขาว่า ไม่รู้พรรคเพื่อไทยนัดฝ่ายพรรคข้างน้อย 188 เสียงมาหารือตั้งรัฐบาลทำไม เพราะคำตอบมีชัดอยู่แล้วว่า พวกเขาไม่เอาพรรคก้าวไกล (..) และไม่ต้องการแก้ .112 แล้วมีความจำเป็นต้องนัดมาพูดคุยกันด้วยหรือ? อีกอย่างตรรกะวิบัติของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่บอกก้าวไกลเป็นพรรคอันดับสอง เพราะฝ่าย 188 เสียงรวมได้มากกว่าจึงเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นการพูดที่ไม่สมเหตุสมผล คงเกิดจากความเครียดมาก

นอกจากนี้ เห็นว่า พรรคก้าวไกลพรรคอันดับหนึ่งส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยพรรคอันดับสองเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลนั้น เพราะทั้งสองพรรคได้ประกาศจะตั้งรัฐบาลร่วมกัน แล้วอีกฝาก 188 เสียงยืนยันไม่ตั้งรัฐบาลข้างน้อย ดังนั้น ในทางการเมือง การหารือกันของสองฝ่ายจึงมีความชัดเจนและยิ่งไม่น่าจำเป็นต้องมาพบปะคุยกัน เนื่องจากย่อมรู้คำตอบผลลัพธ์สุดท้ายได้ชัดเจนแล้ว

นายจตุพร คาดว่า การโหวตนายกฯ วันที่ 27 .. นี้ คงต้องเลื่อนออกไปค่อนข้างแน่นอน เพราะผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) ได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) วินิจฉัยการเสนอชื่อนายกฯ ตาม .272 เมื่อ 19 ..ที่ผ่านมานั้น เป็นการเสนอญัตติตามข้อบังคับประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 หรือไม่ พร้อมขอให้สั่งเลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไปจนกว่าศาล รธน.จะมีผลชี้ขาดออกมา

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเห็นว่า ทุกกระบวนการกำลังถูกล็อคหมด โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกศาล รธน.ล็อค คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกล็อคโดยศาลทุจริต อีกทั้งการโหวตนายกฯ ของ สส.และ สว. เมื่อ 19 .. กำลังเข้าสู่กระบวนการศาล รธน. ดังนั้นเส้นทางการเมืองย่อมถูกล็อคไว้หมด จึงเป็นวิวัฒนาการทางการเมืองที่สะท้อนถึงความลังเล เกิดความไม่มั่นใจเต็มไปหมด

ความไม่มั่นใจนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากคนพูดตระบัตสัตย์กับประชาชนไว้ก็ยังลังเลใจเช่นกัน โดยคุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อีกกทั้งคุณอุ๊งอิ๊งแพทองธาร ชินวัตร ยังพูดชัดเจนไม่แตกต่างกัน แต่วันที่ พปชร.กับ รทสช. มาพรรคเพื่อไทย ทั้งคุณเศรษฐาและคุณอุ๊งอิ๊งกลับไม่ปรากฏตัวเลย หายวับไปหมด คงอับอายคำสัญญาที่ให้กับประชาชน

อีกทั้ง เห็นว่า การเมืองในสภาพแบบนี้จะไปได้ยาก แล้ว สผผ.ขยับตัวส่งเรื่องให้ศาล รธน.จึงน่าคิดอย่างยิ่งกับความขัดแย้งครั้งนี้ โดยเพื่อไทยต้องอธิบายว่า มีเหตุผลอย่างไรจึงชวนพรรคต่างๆ จากอีกฝ่ายหนึ่ง มาที่พรรคเพื่อไทย พูดคุยหารือการตั้งรัฐบาล แล้วประเมินผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรในขั้นสุดท้าย

การเมืองรอบนี้ ตอนแรกดูเหมือนจะดี แต่กลับเละเทะกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และไม่อยากจินตนาการว่า หากเกิดรัฐบาลข้ามขั้วจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายควรมาเจรจากันให้ได้ แต่การคิดจะเป็นนายกฯ ข้ามขั้วให้ได้โดยไม่ใส่ใจตรรกะนั้น ถามคุณเศรษฐา คุณอุ๊งอิ๊ง ว่า กล้าเป็นเหรอ? เพราะการเป็นนายกฯ ต้องมีเกียรติ แค่คำพูดตัวเองยังไม่ซื่อสัตย์ แล้วจะไปทำหน้าที่นายกฯ อย่างสุจริตได้หรือ?”

นายจตุพร สงสัยว่า เมื่อนายเศรษฐา สัญญาจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร.กับ รทสช.แล้ว แต่เพื่อไทยเชิญแกนนำจากพรรคเหล่านี้มาร่วมหารือการตั้งรัฐบาลนั้น นายเศรษฐา ต้องไม่เห็นด้วย และควรแสดงปฏิกิริยาให้ปรากฏอย่างชัดเจน แต่กลับเงียบกรีบ ซึ่งหมายความว่าอย่างไร อีกทั้ง นพ.ชลน่าน หากตั้งรัฐบาลข้ามขั้วแล้ว แม้จะลาออกจากหัวหน้าพรรคตามสัญญาก็ตาม แต่จะไม่มีที่ยืนได้สักที่ การเป็น สส.เขตอาจจะถูกกดดัน รวมทั้งเมื่อไปเป็นรัฐมนตรีก็จะถูกประชาชนตามไปไล่ไม่ลดละ

นายจตุพร เชื่อว่า จากนี้ การจะข้ามขั้วตั้งรัฐบาลคงไม่ง่ายเสียแล้ว เพราะประชาชนมีความรู้สึกว่าถูกทรยศหักหลัง ดังนั้น เพื่อไทยคงหวั่นไหวถึงขั้นปอดแหก ยิ่ง สส.ปากกล้าที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจบนเวทีหาเสียง กลับเงียบกริบเมื่อฝ่ายที่ตัวเองต่อต้านมาถึงที่พรรค และ สส.เหล่านั้นหายหน้าไปหมดสิ้น

เมื่อพร้อมคุยกับพรรคสืบทอดอำนาจที่พรรคตัวเอง มันจึงไปกระแทกใจมวลชน อารมณ์ผู้คนไม่พอใจยิ่งไปไกล ในทางการเมืองนั้น เพื่อไทยถือว่าไปกินเบ็ดอย่างใหญ่โตที่สุด เพราะพรรคฝ่าย 188 ไม่มีเสีย แล้วยังพูดเหมือนเดิม ดังนั้น ใครพัง ใครเจ๊ง ดังนั้น นาทีนี้แม้เพื่อไทยอยากเป็นรัฐบาล แต่ก็ไม่ง่ายเลยนายจตุพร กล่าว

นายจตุพร เห็นว่า ถ้า ศาล รธน.รับเรื่องจาก สผผ. แสดงถึงความสำเร็จในความรู้สึกไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อเพื่อไทย และจะส่งผลระยะยาว ถึงเพื่อไทยจะกลับหลังหัน ก็ยังจะถูกต่อต้านจากมวลชนอยู่ดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo