Politics

รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 3 ก.ค. ก่อนนัดเลือกประธานสภาฯ 4 ก.ค.2566

รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 3 ก.ค. ก่อนนัดเลือกประธานสภาฯ 4 ก.ค.2566 คาดใช้เวลาเพื่อเลือกทั้ง 3 ตำแหน่ง ประมาณ 6 ชั่วโมง

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ตามความในมาตรา 121 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป โดยให้ถือเป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 121 มาตรา 122 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2566 เป็นต้นไป ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เปิด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีเปิดสมัยประชุม ณ โถงพิธี ชั้น 11 อาคารรัฐสภา ในเวลา 17.00 น. โดยมีสมาชิกและบุคคลสำคัญ เช่น  คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระ ส.ส. ส.ว. รวม 936 คน ที่จะเข้าร่วมรัฐพิธีในครั้งนี้

นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตรวจความเรียบร้อยโดยรอบบริเวณรัฐสภา ขณะที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประกาศเสียงตามสายให้นำรถออกจากอาคารรัฐสภา ภายในเวลา 20.00 น วันที่ 30 มิ.ย.66 และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ในวันที่ 3 ก.ค.66 รวมถึงสื่อมวลชนด้ว

ส่วนวันที่ 4 ก.ค.66 ซึ่งจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร 2 คน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดเตรียมห้องประชุมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีการประเมินว่า จะใช้เวลาเพื่อเลือกทั้ง 3 ตำแหน่ง ประมาณ 6 ชั่วโมง หรืออาจเร็วกว่านั้น

ขั้นตอนการเลือก คือ เปิดให้มีการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นประธานสภาฯ โดยต้องมีผู้รับรอง 20 คน ก่อนเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์ หากที่ประชุมเสนอเพียงชื่อเดียว ก็ไม่ต้องลงคะแนน ถือว่าบุคคลนั้นได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่หากมีการเสนอชื่อแข่ง ก็จะต้องโหวตลงมติ โดยจะให้มีการคัดเลือกกรรมการตรวจนับคะแนน และในการลงคะแนนจะเป็นการลงคะแนนลับ ซึ่งจะให้สมาชิกมาลงคะแนนครั้งละ 20 คน เรียงตามตัวอักษรโดยไม่มีการประกาศรายชื่อส.ส.ซึ่งสมาชิกลงคะแนนโดยวิธีการลับ เข้าคูหา แล้วเขียนชื่อบุคคล ที่ต้องการเลือก ลงไปในกระดาษแล้วใส่ในซองสีน้ำตาล ก่อนจะนำใส่ซองไปหย่อนในกล่องใสเมื่อลงคะแนนครบแล้วก็จะทำการตรวจนับคะแนน โดยผลคะแนนจะขึ้นจอทันทีและเมื่อนับคะแนนครบก็จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการเลือก ก่อนจะนำบัตรไปทำลาย ตามข้อบังคับการประชุม ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ก็ใช้วิธีการเดียวกัน

สภา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo