สรุปlสถานการณ์การเมืองไทย 2565 ตื่นเต้น เร้าใจ ดุเด็ดเผ็ดมันส์ ตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี!
เตรียมโบกมือลาปีเก่า 2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566 หรือปี “กระต่ายมงคล” ที่นักพยากรณ์ดวงหลาย ๆ คนเรียกกัน สถานการณ์การเมืองในปี 2566 คงร้อนแรงไม่แพ้ปี 2565 ทั้งนี้หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง ปี 2566 จะเกิดการเลือกตั้งแน่นอน นาทีนี้ลุ้นแค่ตัว “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของแต่ละพรรคเท่านั้น ซึ่งที่ชัดเจนแบบปั๊ว ๆ เลยก็คงมีแค่ 3 พรรคที่ประชาชนอย่างเราคงเดาไม่ยาก
วันนี้ #TheBangkokInsight จะขอไล่เลียงเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทยในปี 2565 ให้ได้อ่านกัน
8 ปี เขย่าเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วิกฤติสั่นคลอนเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากที่สุด คือ การต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ “นายกรัฐมนตรี” ชั่วคราวเพื่อรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน หลังนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เนื่องจากมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้ว ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ด้วยวิธีนับวาระดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ที่ พล.อ. ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหลังก่อรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5:4 ให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2565 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หลังจากนั้น 38 วันที่ พล.อ.ประยุทธ์รอคอย ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งยังไม่ครบ 8 ปี
จากมติศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกมายืนยันแบบชัดเจนว่าจะยังไม่ไปไหน ยังยืนหยัดอยู่ในเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ถึงเดือนมีนาคม 2566 ตามวาระ และประกาศจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” และพร้อมลงสนามการเมืองตามวาระที่เหลืออีก 2 ปี
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ : นายกรัฐมนตรีรักษาการณ์
ในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2565 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยนั้น ช่วงเวลา 38 วันก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามานั่งเก้าอี้รักษาการณ์แทน จนได้รับฉายาจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า “ลองนายกฯ” ในช่วงเวลานั้นเราได้เห็น พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่พบประชาชน ด้วยท่าทีทะมัดทะแมง พร้อมสวมกางเกงยีนส์สุดปัง แบบที่ไม่มีใครเคยได้เห็นมาก่อน
ตลอดการลงพื้นที่จะเห็นสาวน้อย สาวใหญ่ พลัดกันกอดและหอมแก้ม พล.อ.ประวิตร ชนิดที่พระเอกดังก็ไม่ปังเท่านี้ งานนี้คงต้องลุ้นว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า “บิ๊กป้อม” จะเบียดขึ้นมานั่งเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ได้สำเร็จหรือไม่
ชัชชาติ สิทธิพันธ์ : พ่อเมืองกรุงที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
คงปฎิเสธไม่ได้ว่าชื่อของ “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” มาแรงจริง ๆ ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนเกิดกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” และผลการเลือกตั้งครั้งนั้น “ชัชชาติ” ก็ชนะเลือกตั้งแบบกวาดเรียบได้คะแนนไปถึง 1,386,215 คะแนน หรือสูงถึง 51.85% ของคะแนนทั้งหมด
จากนี้คงต้องจับตาการทำงานของ “ชัชชาติ” ว่าจะปังสมกับที่คนกรุงเทคะแนนให้หรือไม่
แพทองธาร ชินวัตร : ว่าที่นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย
แม้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะนั่ง “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แต่ด้วยบทบาทที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดว่า เธอคือ “นอมินี” ตัวจริงของนายทักษิณ ด้วยสายตาที่เด็ดเดี่ยว และการพูดจาที่ฉะฉานทำให้หลายคนมั่นใจว่าเธอคือ “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไปแน่นอน
ทุกการลงพื้นที่ของ “อุ๊งอิ๊ง” นอกจากได้รับแรงเชียร์จากผู้เป็นพ่อ และ “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว ประชาชนที่ไปรอให้กำลังใจก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เธอมั่นใจว่า “พรรคเพื่อไทย” ต้องชนะแบบ “แลนด์สไลด์” เท่านั้น แถมมีการประกาศนโยบายค่าแรง 600 บาทออกมา คงเรียกคะแนนได้ไม่น้อย
ทักษิณ : อยากกลับบ้าน
ช่วงหลัง ๆ เรามักจะได้ยินนายทักษิณ ชินวัตร หรือ พี่โทนี่ พูดบ่อย ๆ ว่าอยากกลับประเทศไทยไปเลี้ยงหลาน ยิ่งหลังจากได้เป็นคุณปู่ป้ายแดง ก็ยิ่งบ่นหนัก แถมลูกสาวสุดที่รักอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” กำลังตั้งครรภ์หลายคนที่ 7 ให้คุณตาตา โดยนายทักษิณ บ่นล่าสุดว่า “ตอนนี้ผมเป็นคุณปู่ป้ายแดงแล้ว มีหลาน 6 คน เลยอยากกลับไปเลี้ยงหลาน ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้ว กลับแน่”
หนทางการกลับบ้านของ “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” คงไม่ใช่เรื่องยาก หาก “เพื่อไทย” ได้กลับมาผงาดอีกครั้ง
อนุทิน ชาญวีรกูล : เนื้อหอมมาก
นาทีนี้ในสนามการเมืองคงไม่มีใครเนื้อหอมเท่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” และพรรคภูมิใจไทย เพราะ ส.ส. จากหลากหลายพรรคต่างมุ่งตรงเข้าหา ด้วยความที่อุดมการณ์ของพรรคไม่ใช่ “สุดโต่ง” นโยบายที่ตอบสนองความหลากหลายของคนได้หลายกลุ่ม แถมยังมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้เชื่อว่าพรรคมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่านี้
ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ภูมิใจไทย จึงแสดงพลังทางการเมืองด้วยการเปิดตัว ส.ส.ปัจจุบัน และ ส.ส.ย้ายพรรคถึง 36 ราย เมื่อบวกกับ ส.ส .ในสภาของพรรคอีก 62 ราย ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีกำลังคนในมือทั้งสิ้น 98 ราย ดังนั้น คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งปี 2566 พรรคภูมิใจไทย จะมี ส.ส. ลงป้องกันแชมป์เกิน 100 ราย
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ : แคนดิเดตนายกฯ?
ส่งท้ายปีด้วยเรื่องนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ประกาศย้ายเข้า “พรรคพลังประชารัฐ” โดยชี้แจงกลางเวทีแถลงข่าวว่าเหตุผลที่ย้ายมา เพราะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในพรรค แต่ที่สร้างความฮือฮาที่สุด คงหนีไม่พ้นระหว่างการแถลงข่าว นายมิ่งขวัญระบุว่า “พล.อ.ประวิตร” จะให้เป็น 1 ในแคนดิเดตนายกรัฐมตรีด้วย
หลังจากการแถลงข่าวไม่นานก็มีข่าวลือสะพัดว่า “มิ่งขวัญ” ลาออกแล้ว แม้นายวิรัชจะออกมาแก้ข่าวแต่ตัวนายมิ่งขวัญก็ยังเงียบ!
การเมืองปี 2566 ปีกระต่ายมงคลจะดุเดือดแค่ไหน คงต้องติดตามกัน!!
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดฉายารัฐบาล ‘ประยุทธ์’ 2565 ‘หน้ากากคนดี’ นายกฯ คว้า ‘แปดเปื้อน’
- บุคคลแห่งปี 2565 : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
- ‘พล.อ.ประยุทธ์’ มอบคำขวัญวันเด็ก 2566 ‘รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี’
