ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน “อดีตผู้กำกับโจ้” 32 รายการ รวยอู้ฟู่ 1,352 ล้านบาท เงินฝาก-รถหรูเพียบ ส่งสำนวนให้ “อสส.” ฟ้องศาลยึดตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงข่าวถึงกรณีการชี้มูลความผิด พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ “ผู้กำกับโจ้” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ คดีร่ำรวยผิดปกติ ว่า เรื่องนี้มีต้นเหตุมาจากกรณีทำร้ายร่างกายผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยสำนวนนั้นพนักงานสอบสวน ส่งสำนวนร้องทุกข์กล่าวโทษให้ ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช.ส่งต่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแล้วเสร็จ และมีการส่งฟ้องศาลแล้ว
เปิดทรัพย์สิน “อดีตผู้กำกับโจ้”
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากมีประเด็นต่อเนื่อง โดยมีผู้สื่อข่าวขยายผลว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ทำไมถึงมีบ้านหลังใหญ่ พร้อมสระว่ายน้ำ ประมาณ 4 ไร่ และมีการครอบครองรถหรูจำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท จึงเป็นมูลเหตุหนึ่งที่ ป.ป.ช. หยิบยกว่า มีข้อสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
จากนั้นมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พบว่า มีรายการทรัพย์สิน เงินฝากธนาคาร ที่ดินพร้อมบ้านพัก รถยนต์ และเงินที่ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์หลายคัน ได้มาไม่สัมพันธ์รายได้ เกินกว่าฐานะ หรือรายได้จากราชการพึงมี จึงเป็นกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาไม่มีมูล โดยใช้อำนาจจากการปฏิบัติหน้าที่ รวม 1,352 ล้านบาทเศษ
รายละเอียดทรัพย์สิน “อดีตผู้กำกับโจ้” จำนวน 32 รายการ ประกอบด้วย
- เงินฝากในบัญชีธนาคาร 3 แห่ง จำนวนกว่า 1,243 ล้านบาท
- บ้าน 2 หลัง พร้อมที่ดินรวม 5 ไร่ มูลค่ากว่า 54 ล้านบาท
- รถยนต์ จำนวน 15 คัน มูลค่ากว่า 6.1 ล้านบาท
- หนี้สินจากการผ่อนชำระตามสัญญา เช่าซื้อรถยนต์ 13 คัน ที่ลดลงผิดปกติ เช่น ปอร์เช่ เบนซ์ บีเอ็มดับบลิว โฟล์คสวาเกน เฟอร์รารี เป็นต้น จำนวนกว่า 53 ล้านบาท
เนื่องจากเงินนั้นไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า ได้มาโดยถูกกฎหมายหรือไม่ โดยมีการส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ทราบว่าพนักงานอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ 3 สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ยื่นคำร้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอให้ศาลยึดทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินแล้ว หากกรณีไม่สามารถบังคับเอากับทรัพย์สินที่รวยผิดปกติได้ ขอให้ศาลบังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นกับผู้ถูกกล่าวหาได้ ภายในระยะเวลา 10 ปี เนื่องจากอาจมีการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแจ้งผลพิจารณาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ด้วยตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. ด้วย
ส่วนกรณีการเบิกจ่ายเงินสินบนนำจับจากกรมศุลกากร ในการจับรถยนต์หรูที่ลักลอกนำเข้าไทยนั้น ปรากฏว่า พ.ต.อ.ธิติสวรรค์ โดยปรากฏชื่อเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ป.ป.ช.ดำเนินการรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วว่า เป็นการจับกุม
ส่วนการเบิกจ่ายสินบนนับจับจากกรมศุลกากร ในการจับรถยนต์ลักลอบนำเข้าไทย ปรากฏว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ รับเรื่องไว้ไต่สวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นอีกกรณีว่า เป็นการจับกุมโดยชอบหรือไม่ มีการแจ้งเพื่อขอรับเงินรางวัลโดยชอบหรือไม่ ดังนั้น จะมีคดีทางอาญาอีกเรื่อง คือ กรณีกระทำผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดย ป.ป.ช. ดำเนินการอยู่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ รวยผิดปกติพันล้าน! ชงยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน
- ครอบครัวอดีต ‘ผู้กำกับโจ้’ ไม่ขอสู้คดี น้อมรับผลจำคุกตลอดชีวิต
- เรื่องน่าเศร้าของคดี ‘ผู้กำกับโจ้’ จำคุกตลอดชีวิต แต่อีกไม่กี่ปีก็ได้บรรเทาโทษ!