General

‘บิ๊กป้อม’ สั่งดีอีเอสเคาะมาตรการแก้ฉ้อโกงออนไลน์ให้จบใน 10 วัน ก่อนเสนอครม.พิจารณา

“บิ๊กป้อม” จี้ดีอีเอส แก้ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ ประชุมเคาะ 6 มาตรการเร่งด่วน พร้อมรายงานผลการปฏิบัติงาน สถิติการดำเนินคดี

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จัดประชุม การแก้ไขปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ ในวันนี้ (7 พ.ย. 65)

บิ๊กป้อม 1

ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากกระทรวงดีอีเอส สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สมาคมธนาคารไทย และผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้แทนกระทรวงการคลัง

ที่ประชุมได้สรุปผลของการปฎิบัติงาน และสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญ ในปี 2565 ถึงเดือนตุลาคม นี้ ประกอบด้วย

1. การปิดกั้นข้อความ SMS/โทรหลอกลวง จำนวน 76,165 หมายเลข และดำเนินคดีแก๊งค์ Callcenter ในต่างประเทศ จำนวน 6 ครั้ง มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 166 ราย

2. การอายัดบัญชีม้าจำนวน 40,198 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชี่ยลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 6 กลุ่ม

3. การดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงลงทุน- ระดมทุนออนไล และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 653 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 747 ราย

4. การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดีกับเว็บไซต์ ที่กระทำความผิดจำนวน 312 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 403 รายและปิดกั้นเว็บไซต์พนันจำนวน 1,507 เว็บไซต์

ประชุม1

5. การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ดำเนินคดีจำนวน 469 คดีและมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 490 ราย

ที่ประชุม ยังได้วางแนวทางมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ 6 มาตรการ ได้แก่

1. การเร่งรัดปราบปรามกลโกงออนไลน์ 5 ด้านดังนี้ (1) แก๊ง Call Center (2) บัญชีม้า (3) การหลอกลวงลงทุน-ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน (4) การพนันออนไลน์ และ (5) การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์

2. การป้องกันธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย

3. การป้องกันการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย

4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดวงจรอาชญากรรม

5. การยกระดับการเตือนภัยออนไลน์และสร้างการรับรู้ต่อประชาชน และ

6. การเร่งรัดพัฒนากฎหมาย และขยายผล

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาเรื่องการแจ้งเตือนเพื่อให้ประชาชนก่อนการโอนเงินของระบบ E-Banking / Mobile Banking การป้องกันการโอนเงินผ่าน Remote Application ที่คนร้ายใช้

ประชุม

ในส่วนของ สำนักงาน กสทช. ให้เร่งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับหน่วยงานหรือผู้ใช้งาน Sim โทรศัพท์ที่ผิดกฎหมาย (เช่น SIM ไม่ลงทะเบียน หรือลงทะเบียนไม่ถูกต้อง)

ขณะเดียวกัน กระทรวงดิจิทัลฯ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันการออกพระราชกำหนดเกี่ยวกับบัญชีม้าและการจัดการธุรกรรมที่ต้องสงสัยหรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมก่อนกระทบในวงกว้าง

นอกจากนี้ จะยกระดับการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ผ่านทางช่องทางแอปเป๋าตังค์ และช่องทางต่างๆ โดยกระทรวงดิจิทัลฯ จะเร่งนำมาตรการเร่งด่วนแก้ไขการฉ้อโกงออนไลน์ ตามที่ได้หารือกันในวันนี้ เสนอคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า

พลเอกประวิตร กล่าวย้ำว่า รัฐบาลเอาจริงและพยายามทุกวิถีทางที่จะปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการปราบปรามผู้กระทำความผิดให้ได้รับโทษ จากการกระทำผิดตามกฎหมายและอาชญากรรมทางออนไลน์ให้ถึงที่สุด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และขอให้กระทรวงดิจิทัลฯ เร่งสรุปมาตรการเร่งด่วนแก้ไขการฉ้อโกงออนไลน์ เสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 10 วัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo