“หมอนิธิพัฒน์” ห่วงฝนจาง ภาวะอากาศบีบอัด ทำฝุ่นตลบสร้างปฏิกิริยาเกิดฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้น แถมโควิดยังส่อแววพุ่งอีกรอบ
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ห่วงปัญหาฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้น โดยระบุว่า
หลังมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่มาปกคลุมบ้านเรา สัปดาห์นี้ที่พอฝนเริ่มเจือจางไป หลายสิ่งหลายอย่างไม่พึงปรารถนาก็เริ่มโผล่ขึ้นมา ไม่ต่างจากปัญหาเรื่องกัญชาที่ถูกซุกไว้ใต้พรมแล้วเริ่มปะทุขึ้นจากศึกพรรคการเมือง
เริ่มจากการดีใจของวันทำงานวันแรกหลังหยุดยาวสี่วัน เพราะสถิติโควิดของสัปดาห์ก่อนดูดีขึ้นต่อเนื่อง มีผู้ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะโควิดลดลงเหลือเฉลี่ยวันละ 319 คน และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 7.6 คน
แต่ผ่านมาถึงวันสองวันนี้ ภาพแถวผู้ป่วยนอกที่รอตรวจโควิดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าที่บ้านริมน้ำ ซึ่งหายไปนานหลายสัปดาห์เริ่มกลับมาให้เห็นกันได้ใหม่ สอดคล้องกับคนรอบตัวที่เริ่มกลับมาติดโควิดกันเพิ่มขึ้น พร้อมกับการป่วยเป็นไข้หวัดทั้งจากเชื้อไข้หวัดใหญ่และเชื้อ RSV คงเป็นผลจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
แต่ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางที่ติดเชื้อโควิดและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่บ้านริมน้ำยังทรงตัว คาดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะมีการขยับขึ้นมาบ้าง ช่วงนี้คงต้องขอเตือนให้ทุกฝ่ายเคร่งครัดมาตรการควบคุมโควิดกันไว้ด้วย
ที่มาคู่กันกับอากาศซึ่งเย็นลงเร็วแล้วเริ่มค่อยๆ นิ่ง ก็คือสารพัดฝุ่นที่ตลบขึ้นมา จนเริ่มเห็นท้องฟ้าตอนสายมีการแยกชั้นมัวฝุ่นกับชั้นแดดใสออกจากกันได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมองจากอาคารสูง
ทั้งนี้เนื่องจากเกิดภาวะอากาศบีบอัด (temperature inversion) ทำให้ปริมาณฝุ่นที่มากอยู่แล้วมีความหนาแน่นขึ้น ดังตัวอย่างรูปผลการวัดจากสถานีตรวจของ กรมควบคุมมลพิษ แถวบางซื่อ ที่เริ่มมีค่าเฉลี่ยของ PM2.5 ในรอบ 24 ชั่วโมงสูงจนเข้าสู่ระดับอันตรายต่อสุขภาพคือ 57 มคก./ลบ.ม. (เกิน 50)
แต่ถ้าดูเฉพาะค่ารายชั่วโมงช่วงตีหนึ่งของคืนก่อน ค่าทะลุขึ้นไปถึง 128 มคก./ลบ.ม. เป็นผลจากมลพิษในอากาศอื่นลอยขึ้นชั้นบรรยากาศไปทำปฏิกิริยาเกิด PM2.5 เพิ่มขึ้น
ซึ่งระดับเกิน 75 ถือว่าอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพปอดทั้งของคนปกติและกลุ่มคนเปราะบาง แถมยังช่วยส่งเสริมให้คนเราติดเชื้อในระบบการหายใจได้มากขึ้น
รวมถึงเจ้าตัวสำคัญโควิดที่ยอดน่าจะกำลังค่อย ๆ เพิ่มขึ้น คงต้องรอการยืนยันของหน่วยงานทางการซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ
ส่วนที่กังวลกันว่า อาจจะเป็นผลจากสายพันธุ์ย่อย XBB หรือเปล่า ก็อาจมีความเป็นไปได้ เพราะภูมิคุ้มกันจากการติดสายพันธุ์ BA.2 ในพีคช่วงสงกรานต์น่าจะเริ่มหมดไปแล้ว
ขอเอาใจช่วยพี่น้องร่วมชาติที่ประสบภัยน้ำท่วม หวังว่าภาครัฐจะให้การช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างตรงจุดและทั่วถึง
ในท่ามกลางเรื่องร้ายๆ และท้องฟ้าที่ขมุกขมัว ยังพอมีข่าวดีให้อารมณ์แจ่มใสขึ้นบ้าง ตรงที่ทีมปิศาจแดงสามารถกำชัยต่อทีมตราไก่ได้ในบ้านตนเอง ขอให้คงเส้นคงวาแบบนี้ไปเรื่อยเหมือนการควบคุมโควิดในบ้านเรา ระหว่างนี้เริ่มมองหาทริปเที่ยวชมภูดูธรรมชาติ เฉกเช่นที่เคยพาคู่ลูกสาวไปสัมผัสมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมพร้อมยุคหลังโควิด ‘หมอนิธิพัฒน์’ แนะวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ ตัวช่วยสู้โควิด-PM2.5
- ‘หมอนิธิพัฒน์’ แนะวิธีจัดระบบระบายอากาศในบ้าน ป้องกันเชื้อโรคล่องลอยในอากาศ
- ‘หมอนิธิพัฒน์’ รอลุ้น ชุดตรวจโควิดจากลมหายใจ ฝีมือคนไทย