General

ปภ. ประสาน ‘9 จังหวัดภาคใต้’ เตรียมรับมือ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 17–22 ต.ค.

ปภ. ประสาน ‘9 จังหวัดภาคใต้’ เตรียมรับมือ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 17–22 ต.ค. 65

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้ง 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 17 – 22 ต.ค. 65

ปภ.

โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (288/2565) ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2565  เวลา 17.00 น. แจ้งว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง “เนสาท” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 19 – 20 ตุลาคม 2565

ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้พายุจะอ่อนกำลังลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว และในช่วงวันที่ 17 – 21 ตุลาคม 2565 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้

307339148 413840697589007 8792854088102770672 n

ประสาน 9 จัหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือ

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้มีประกาศฉบับที่ 51/2565 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 17 – 22 ตุลาคม 2565 ดังนี้

  • พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองฯ หลังสวน ละแม สวี และพะโต๊ะ) สุราษฎร์ธานี (อำเภอพระแสง ท่าฉาง คีรีรัฐนิคม ท่าชนะ บ้านนาสาร ไชยา พนม พุนพิน เกาะสมุย และเกาะพะงัน) นครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองฯ ท่าศาลา และปากพนัง) ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อำเภอเมืองฯ กะปง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า ทับปุด และตะกั่วทุ่ง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอห้วยยอด ปะเหลียน ย่านตาขาว) และสตูล (อำเภอเมืองฯ)
  • พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองฯ สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อำเภอเมืองฯ เกาะยาว ทับปุด ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) ภูเก็ต (อ.ทุกอำเภอ) กระบี่ (อำเภอเมืองฯ คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ) และสตูล (อำเภอเมืองฯ ละงู มะนัง ทุ่งหว้า)

กอปภ.ก. จึงได้ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยติดตามสภาพอากาศและปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักหรือฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ที่อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย และพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำ

ปภ.
ภาพน้ำท่วมจังหวัดภูเก็ต จากเพจเฟซบุ๊ก : จังหวัดภู เก็ต , ANDAMAN TOP NEWS

เตือนการท่องเที่ยว-การเดินเรือ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณการแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะห้ามลงเล่นน้ำและประกอบกิจกรรมทางทะเลด้วยความระมัดระวังในช่วงคลื่นลมแรง

หากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้จังหวัดพิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด รวมถึงประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย อีกทั้งจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) และนำเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำจุดเสี่ยงอันตรายและพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันทีตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ขอให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นและปฏิบัติตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo