General

เช็กเลย! กรมทางหลวง อัพเดทน้ำท่วม-ดินสไลด์ 23 จังหวัด ถนนสัญจรไม่ได้ 30 แห่ง

เช็กเลย!! กรมทางหลวง อัพเดทสถานการณ์น้ำท่วม-ดินสไลด์ 23 จังหวัด ถนนสัญจรไม่ได้ 30 แห่ง

กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมเร่งระบายน้ำ บำรุงรักษาเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ พร้อมติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง

ในขณะที่บางพื้นที่ก็มีการล้างทำความสะอาดถนน ทางลอดใต้สะพานหลังจากน้ำลดลงบ้างแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใย จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนอย่างทันท่วงที

กรมทางหลวง

กรมทางหลวง สรุปน้ำท่วม-ดินสไลด์

พร้อมกันนี้ กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 12 ตุลาคม  2565 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร สระบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี นครปฐม ปราจีนบุรี ระยอง เพชรบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 51 สายทาง 80 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 30 แห่ง ดัง

  1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
  • ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อำเภอพล ช่วง กม. ที่ 33+150 – 34+000 ระดับน้ำ 35 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 6+700 – 7+200 ระดับน้ำ 80 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  • ทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อำเภอน้ำพอง ช่วง กม. ที่ 14+500 – 15+100 ระดับน้ำ 40 – 45 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม. ที่ 25+600

กรมทางหลวง

  1. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่
  • ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อำเภอกันทรารมย์ ช่วง กม. ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 80 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178
  • ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อำเภอราษีไศล ช่วง กม. ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 45 – 80 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อำเภอราษีไศล ช่วง กม. ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 60 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อำเภอราษีไศล ช่วง กม. ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อำเภอราษีไศล ช่วง กม. ที่ 37+000  – 39+500 ระดับน้ำ 50 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อำเภอกันทรารมย์ ช่วง กม. ที่ 103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 80 – 90 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 40 – 80 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม. ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำ 60 – 80 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

กรมทางหลวง

  1. จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แห่ง
  • ทางหลวงหมายเลข 2285 ตอน ประทาย – ชุมพวง ในพื้นที่ อำเภอชุมพวง ช่วง กม. ที่ 18+700 – 20+300 ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.2 ตรงไปถึงแยกบ้านวัดเลี้ยวขวาเข้า ทล.207
  1. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง
  • ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู – เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 20 – 65 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013

กรมทางหลวง

  1. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 8 แห่ง
  • ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อำเภอวารินชำราบ ช่วง กม. ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 115 เซนติเมตร แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี
  • ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 259+700 – 261+800 ระดับน้ำ 60 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 274+840 น้ำกัดเซาะข้างท่อเหลี่ยม ทำให้ถนนทรุด (ปิดการจราจรขาออก ใช้ทางเบี่ยง)
  • ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อำเภอวารินชำราบ ช่วง กม. ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 70 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อำเภอวารินชำราบ ช่วง กม. ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 130 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 105 – 135 เซนติเมตร ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231
  • ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อำเภอเขื่องใน ช่วง กม. ที่ 14+120 – 14+550 ระดับน้ำ 60 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382
  • ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าวารี – ท่าศาลา ในพื้นที่ อำเภอเขื่องใน ช่วง กม. ที่ 9+500 – 10+325 ระดับน้ำ 15 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

กรมทางหลวง

  1. จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 แห่ง
  • ทางหลวงหมายเลข 3034 หน้าพระลาน – บ้านครัว ในพื้นที่ อำเภอบ้านหม้อ ช่วง กม. ที่ 13+200 – 15+700 ระดับน้ำ 40 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  1. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 แห่ง
  •  ทางหลวงหมายเลข 33 ตอน นาคู – ป่าโมก ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม. ที่ 36+000 – 36+200 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 100 เซนติเมตร น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  • ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม. ที่ 9+900 – 10+400 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 เซนติเมตร น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  • ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อำเภอป่าโมก ช่วง กม. ที่ 10+400 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้

กรมทางหลวง

  1. จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 4 แห่ง
  • ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย – วัดกระดังงา ในพื้นที่ อำเภอเมือง ช่วง กม. ที่ 33+500 – 36+000 ระดับน้ำ 105 เซนติเมตร (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030
  • ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  – บ้านม้า ในพื้นที่ อำเภออินทร์บุรี ช่วง กม. ที่ 39+900 – 44+100 ระดับน้ำ 90 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
  • ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  – บ้านม้า ในพื้นที่ อำเภออินทร์บุรี ช่วง กม. ที่ 57+400 – 57+850 ระดับน้ำ 60 เซนติเมตร (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
  • ทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ – บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม. ที่ 0+000 – 0+100 ระดับน้ำ 40 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  1. จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 แห่ง
  • ทางหลวงหมายเลข 3522 ตอน เนินฝอยทอง – ทุ่งผักเบี้ย ในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี ช่วง กม. ที่ 3+800 – 4+100 ระดับน้ำ 40 เซนติเมตร การจราจรไม่สามารถผ่านได้

กรมทางหลวง

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที

นอกจากนี้ กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo