หลังจากที่ประชุมครม.เคาะงบ 2.3 หมื่นล้านบาท เยียวยาน้ำท่วม พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจ เบื้องต้นคาดว่าจะจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ครอบครัวละ 3,000 บาท
วานนี้ (11 ต.ค. 65) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการพิจารณางบประมาณช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยเบื้องต้น ได้เคาะงบประมาณในการเยียวยา และฟื้นฟูหลังน้ำท่วมประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณ จัดทำประมาณการวงเงินเบื้องต้น เพื่อใช้ในการเยียวยาประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด รวมถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม และมาตรการอื่น ๆ ที่จะดำเนินการในช่วงปลายปี
สำหรับงบประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ในเบื้องต้นแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้
1. การเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วม คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยยึดเกณฑ์เยียวยาตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 ที่จ่ายให้กับครัวเรือนที่ประสบภัยครัวเรือนละ 3,000 บาท คาดมีผู้ที่ได้รับการเยียวยาประมาณ 2 ล้านครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม งบประมาณ 6.000 ล้านบาทนี้ ไม่รวมงบประมาณสำหรับชดเชยเกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งจะมีการสำรวจความเสียหายอีกครั้งหลังน้ำลดอีกครั้ง
2. การฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงปลายปี หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว ใช้วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท
ในเบื้องต้น นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ดำเนินโครงการที่เคยทำมาและได้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 เช่น เราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่ง เป็นต้น
สำหรับการตั้งงบประมาณเยียวยาน้ำท่วมครั้งนี้ จะใช้งบกลาง รายการใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นกรณีเร่งด่วน รวมประมาณ 9.24 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงต้นปีงบประมาณ ที่กระทรวงต่าง ๆ สามารถโยกงบประมาณหรือเปลี่ยนแปลงโครงการ เพื่อมาใช้ในการเยียวยาความเสียหายจากน้ำท่วมได้
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อทำเรื่องเบิกจ่าย ขณะที่มาตรการเพิ่มเติมจะต้องมีการพิจารณากันต่อไป เพื่อให้เป็นไปอย่างครบถ้วนและทั่วถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของเกณฑ์ให้ความช่วยเหลือ จะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ ที่อนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้สำรองจ่ายตามที่ระเบียบกำหนด ซึ่งผู้ประสงค์ขอยืมเงินมีความจำเป็นต่อการใช้จ่ายเงินเป็นกรณีเร่งด่วน ได้แก่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564
เปิดหลักเกณฑ์เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วม
ในส่วนของการช่วยเหลือเกษตรกร จะช่วยเหลือตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ อาทิ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่, ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ 4,048 บาท ต่อไร่
ด้านประมง สัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาทุกชนิด หรือ สัตว์น้ำอื่น ไร่ละ 4,682 บาท ส่วน กุ้งหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท โดยจะช่วยเหลือไม่เกินรายละ 5 ไร่ ส่วนการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง บ่อซีเมนต์ ช่วยเหลือตารางเมตรละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร
ส่วนด้านปศุสัตว์ ได้แก่ โค ตัวละ 13,000 – 35,000 บาท กระบือ ตัวละ 15,000 – 39,000 บาท รายละไม่เกิน 5 ตัว ส่วนสุกร ตัวละ 1,500 – 3,000 บาท แพะ/แกะ ตัวละ 1,500 – 3,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ตัว
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย หรือผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ เตรียมไว้แล้ว 2.3 หมื่นล้าน ‘งบเยียวยาน้ำท่วม’ สั่งการสำรวจความเสียหายทันที หลังน้ำลด
- ‘เขื่อนกระเสียว’ น้ำล้นอ่าง เตือน 3 จังหวัดลุ่มน้ำท่าจีน น้ำเพิ่มสูง เช็กพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมด่วน
- อัพเดทล่าสุด!! GISTDA เปิดภาพน้ำท่วมขัง 9 จังหวัดลุ่มน้ำชี-ลุ่มน้ำมูล รอไหลลงอุบลฯ
