General

‘พล.อ.ประวิตร’ ผนึกกำลัง 22 หน่วยงาน ร่วมบูรณาการสาธารณูปโภค-โครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่คทช.

“พล.อ.ประวิตร”  ผลักดันความร่วมมือ 22 หน่วยงาน บูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. หวังยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)

พล.อ.ประวิตร

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน เพื่อบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

การลงนามฯ ครั้งนี้ นับเป็นการผนึกกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ โดยมุ่งหวังให้ความสำคัญกับการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ให้มีความเข้าใจตรงกัน และการขับเคลื่อนการดำเนินงานในทิศทางเดียวกัน

S 942156

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน ให้เกิดความรวดเร็วทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนและมีการติดตามแก้ไขปัญหาอุปสรรคไปด้วยกัน เพื่อบูรณาการวางแผนพัฒนาพื้นที่ด้วยการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

ด้าน ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช. กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่ผ่านมา สคทช. ได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เพื่อปรับปรุงระบบที่ดินทำกินและลดความเหลื่อมล้ำด้านการถือครองที่ดิน และเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

S 166158398
ดร.รวีวรรณ ภูริเดช

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดไว้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของ คทช. ในการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ในรูปแบบการจัดที่ดินในลักษณะแปลงรวมโดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่มหรือชุมชน ในรูปแบบสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม โดยมีมาตรการป้องกันการเปลี่ยนมือไปอยู่ในการครอบครองของผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร หรือผู้ยากจน

ปัจจุบัน คทช. ได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว 1,483 พื้นที่ ใน 70 จังหวัด ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 5,792,144 ไร่ ทั้งในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ป่าไม้ถาวร ป่าชายเลน ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่ดินราชพัสดุ นิคมสหกรณ์ และที่ดินสงวนเพื่อกิจการนิคมในนิคมสร้างตนเอง

S 942154

นอกจากการเร่งรัดการออกหนังสืออนุญาตและการจัดคนเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินพื้นที่เป้าหมายแล้ว การจัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจนภายใต้ คทช. ยังครอบคลุมไปถึงการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น แหล่งน้ำ ไฟฟ้า และถนน ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพตามศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินสามารถอยู่อาศัยและประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงดูตนเองและพึ่งพาตนเองได้

ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปร่วมดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว จำนวน 247 พื้นที่ จากจำนวนพื้นที่ที่ได้มีการจัดคนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ คทช. แล้วทั้งสิ้น 336 พื้นที่ โดยเป็นการดำเนินงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและการพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน จำนวน 34 พื้นที่ ใน 21 จังหวัด

119351

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนการดำเนินงานในครั้งนี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม โดยมีการร่วมกันจัดทำแผนการดำเนินงาน บูรณาการการวางแผนพัฒนาพื้นที่ สนับสนุนข้อมูลเตรียมความพร้อม

พร้อมกันนี้ ยังอำนวยความสะดวก ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ให้บรรลุเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการพัฒนาประเทศตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาตินโยบายและแผนระดับชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo