General

เปิดไทม์ไลน์ ‘ผู้ป่วยฝีดาษลิง’ รายที่ 6 หญิงไทย กลับมาจากกาตาร์ สัมผัสใกล้ชิด 28 คน

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่ 6 เป็นหญิงไทย เดินทางกลับมาจากกาตาร์ พบผู้สัมผัสจำนวน 28 คน แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 4 คน และเสี่ยงต่ำ 24 คน ให้ผู้สัมผัสทุกคนสังเกตอาการตนเอง

วันนี้ (26 ส.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ถึงการพบผู้ติดเชื้อยืนยันโรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง เป็นเพศหญิง อายุ 21 ปี สัญชาติไทย ไปประกอบอาชีพพนักงานนวดแผนไทย ที่ประเทศกาตาร์

ฝีดาษลิง

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ป่วยเริ่มมีตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ก่อนที่วันที่ 21 สิงหาคม จะเดินทางกลับมาประเทศไทย และเดินทางกลับบ้านที่ จังหวัดมหาสารคาม

วันที่ 22 สิงหาคม เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย พบว่ามีตุ่มน้ำใส และอาการป่วยเข้าได้กับนิยามผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร จึงได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ วันที่ 24 สิงหาคม 2565 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโรคฝีดาษวานร โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และจากการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด พบผู้สัมผัสจำนวน 28 คน แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 4 คน และเสี่ยงต่ำ 24 คน และให้ผู้สัมผัสทุกคนสังเกตอาการตนเอง

“สรุปได้ว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว มีอาการตั้งแต่อยู่ที่ต่างประเทศ ขณะเดินทางผู้ป่วยแสดงอาการผื่น เพียงเล็กน้อย และอยู่ในร่มผ้า อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดินทางผู้ป่วยมีการป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างจากผู้โดยสารคนอื่น ๆ ผู้ป่วยรายนี้นับเป็นผู้ป่วยรายที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นเพศหญิง รายที่ 3”

สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ส.ค. 65) พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรยืนยัน จำนวน 46,047 ราย เสียชีวิต 15 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอยู่ในแถบทวีปยุโรป

ฝีดาษลิง

ประเทศที่มีผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสูงสุด 5 ลำดับแรก

  1. สหรัฐอเมริกา 16,603 ราย
  2. สเปน 6,318 ราย
  3. บราซิล 4,144 ราย
  4. เยอรมนี 3,350 ราย
  5. สหราชอาณาจักร 3,207 ราย

ส่วนสถานการณ์ฝีดาษวานรในประเทศไทย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 6 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ ที่มีประวัติสัมผัสกับชาวต่างชาติ 3 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 3 ราย ขณะนี้รักษาหายแล้ว 4 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย

จากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1-5 จนครบกำหนด 21 วันแล้ว รวมจำนวน 44 คน ไม่มีอาการป่วย และไม่เป็นผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรด้วย

นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอประชาชนมั่นใจในระบบสาธารณสุขไทย ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรอง เฝ้าระวัง ป้องกันโรค และขอเน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อง่ายหรือมีความรุนแรง ส่วนใหญ่เชื้ออยู่ที่ตุ่มหนองบริเวณผิวหนัง ขณะป่วย จึงขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้เดินทางไป หรือกลับจากประเทศที่มีการระบาด หรือพำนักอาศัยที่ต่างประเทศ ให้เลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย

ฝีดาษลิง

สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้อื่น ไม่สัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาด และไม่สัมผัสสัตว์ป่วย

หากผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด หลังจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านได้ทันที

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo