วันงดสูบบุหรี่โลก สสส.- ภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนพื้นที่ปลอดบุหรี่ 7 ประเภท หวังสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมทุกปี โดยในปี 2565 นี้ องค์การอนามัยโลก กำหนดประเด็นรณรงค์คือ บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ สสส. โดยแผนควบคุมยาสูบ มุ่งให้ความสำคัญในการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ ถือเป็นเป้าหมายหลักในการทำงานขับเคลื่อนการควบคุมและลดผลกระทบจากบุหรี่ เพื่อคุ้มครองสุขภาพทั้งตัวผู้สูบบุหรี่ และผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
สำหรับผลลัพธ์จากการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนพื้นที่รูปธรรมเขตปลอดบุหรี่ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
1. โรงเรียนปลอดบุหรี่
2. สถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่
4. สถานประกอบการปลอดบุหรี่
5. วัดปลอดบุหรี่
6. ชายหาดปลอดบุหรี่
7. การขับเคลื่อนและผลักดันพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ในอาคารชุด คอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เพื่อให้คนไทยมีอากาศบริสุทธิ์ได้หายใจ
อย่างไรก็ตาม พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ยังคงสูง โดยผลการสำรวจล่าสุดจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบคนไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป เป็นผู้สูบบุหรี่ 9.9 ล้านคน คิดเป็น 17.4% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ผู้ชายสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิงถึง 20 เท่า
แม้ผู้สูบบุหรี่จะมีแนวโน้มที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีผู้สูบบุหรี่ 10.7 ล้านคน แต่ยังบรรลุตามเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2565-2570) ที่กำหนดลดคนสูบบุหรี่ในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 14% ภายในปี 2570
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายการลดปัจจัยเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Global NCDs Target) ที่กำหนดให้มีผู้สูบบุหรี่ไม่เกิน 15% ภายในปี 2568
ดังนั้น สสส. จึงได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบ ได้แก่
1. สนับสนุนกลไกและหน่วยงานต่าง ๆ ให้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ มุ่งผลักดันให้กลไกการดำเนินงานควบคุมยาสูบในระดับจังหวัดมีความเข้มแข็ง
2. จัดทำข้อมูลความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความรอบรู้ด้านยาสูบ โดยเฉพาะประเด็นร้อน เช่น ประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้ากับโรคโควิด-19 การปลูกพืชทดแทนใบยาสูบ
3. พัฒนาและสนับสนุนการสื่อสารสาธารณะ สนับสนุนให้เกิดการปฏิบัติตามนโยบาย มาตรการ กฎหมาย และสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคยาสูบ
4. ปกป้องการได้รับควันบุหรี่มือสองและมือสาม รวมถึงการรณรงค์บ้านและครอบครัวปลอดบุหรี่
5. พัฒนาและขยายเครือข่ายนักรณรงค์ในระดับพื้นที่ ผ่านท้องถิ่น (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ท้องที่ (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) และชุมชน รวมทั้งสื่อมวลชนท้องถิ่น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ 31 พฤษภาคม ‘บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม’
- ดันโครงการ ‘กรุงเทพ…มหานครไร้ควันบุหรี่’ ตั้งเป้าลดสิงห์อมควัน 30% ภายในปี 68
- อยากเลิกบุหรี่ มามุงตรงนี้ แนะ 4 ประเภทอาหาร ทางเลือกช่วยเลิกบุหรี่สำเร็จ