General

‘อัจฉริยะ’ ยื่นหลักฐานคดีแตงโม ขอดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ มั่นใจเป็นฆาตกรรม!

“อัจฉริยะ” ยื่นหลักฐาน “คดีแตงโม” ขอ “ดีเอสไอ” รับเป็นคดีพิเศษ มั่นใจคดีนี้เป็นการฆาตกรรมอำพรางโดยไม่มีการวางแผน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ลั่น “แซน” ให้การเท็จ

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมคดีการเสียชีวิตของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เพื่อขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หลังจากเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ พร้อมด้วยชุดประดาน้ำทีมกู้ภัยหมูป่านำอุปกรณ์ดำน้ำลงพื้นที่บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 นนทบุรี เพื่อลงน้ำงมหาวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโม โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอมารับเรื่อง

อัจฉริยะ

มั่นใจเป็นการฆาตกรรมอำพราง

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอนัดตนให้เข้ามา สอบปากคำในคดีนี้ จึงได้มาตามกำหนดพร้อมทั้งนำส่งมอบวัตถุพยานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์สำคัญ จำนวน 20 ชุด และพยานบุคคลจำนวน 13 ปาก เนื่องจากมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯพบเรือสปีดโบ๊ต จำนวน 2 ลำ ร่วมก่อเหตุในคดีแตงโม โดยเรืออีก 1 ลำ น่าจะถูกนำไปขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังอยู่ในประเทศ และตำรวจน่าจะทราบข้อมูลดังกล่าวนี้ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าคดีนี้เป็นการฆาตกรรมอำพรางโดยไม่มีการวางแผน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้า และ “แซน” นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ให้การเท็จ

สำหรับบาดแผลใหญ่ขาข้างขวาด้านในที่พบนั้นเชื่อว่าเกิดจากของมีคม ไม่ใช่ใบพัดเรือ รวมทั้งข้อสังเกตเดิมเรื่องทรายที่พบในมือและโคลนในปอดของร่างแตงโม ซึ่งหลักฐานเหล่านี้มีทั้งพยานบุคคล ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ และพยานหลักฐานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษประกอบการพิจารณารับคดีนี้

อัจฉริยะ

วางยาแตงโม?

“ผมขอถามว่าตำรวจได้สอบกรณีแตงโม มีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า และพบยารักษาโรคซึมเศร้าในร่างของแตงโม ด้วยหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการพบสารประเภทยานอนหลับในเลือดของผู้ต้องหาคนหนึ่งในคดีนี้ เพราะหากตำรวจไม่มีการสอบประเด็นนี้ อาจเป็นไปได้ว่ามีการวางยาแตงโม และการสร้างพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมแตงโมได้” นายอัจฉริยะ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.ต. วรณัน กล่าวว่า นายอัจฉริยะมาให้ถ้อยคำตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย โดยนำข้อมูลมายื่นให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบในสำนวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาสอบปากคำและนำหลักฐานอื่นที่รับมาประกอบการพิจารณา แต่ตอบไม่ได้ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่จะรวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานตามที่ปรากฏทั้งหมดเพื่อเสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาและเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาตามที่กฎหมายต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่

อัจฉริยะ

“ประเด็นแรกต้องดูว่าผู้ร้องยื่นข้อเท็จจริงอะไรบ้าง ประเด็นที่สองพยานหลักฐานที่ได้รับจำเป็นต้องนำไปตรวจพิสูจน์หรือไม่ และพยานบุคคลที่อ้างถึงต้องสอบเพิ่มเติมตามที่อ้างมาหรือไม่ เราต้องพิจารณาให้ครบทุกประเด็น โดยคดีนี้มีการตั้งพนักงานสืบสวนและดำเนินการสืบสวนคืบหน้าพอสมควรแล้ว ส่วนหลักฐานที่ยื่นในวันนี้ก็จะรวมอยู่ในสำนวนเดียวกับที่น.ส.รสนา โตสิตระกูล มายื่นก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งการสอบสวนดีเอสไอก็รับฟังข้อเท็จจริงทุกประเด็นทั้งประเด็นที่ต้องสอบถามพนักงานสอบสวน และประเด็นข้อสงสัยที่ร้องเข้ามาทั้งหมด ตอนนี้เราได้ทำตารางสอบสวนแยกไว้ว่าข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งมาเป็นอย่างไร ข้อมูลจากผู้ร้องมีประเด็นที่ยังสงสัยต้องไปดูข้อมูลเพิ่มเติม” โฆษกดีเอสไอ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK