ช็อกอีก! บุกค้น ‘พระบิดา’ มาร์เก็ตติ้ง ผลิตปลาหมึกขึ้นรา-ปลาร้าหนอนไต่ ออกเร่ขาย

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 11 พฤษภาคม 2565

ช็อกอีก! บุกโรงงานผลิต ปลาร้าพระบิดา และสินค้าบริโภค นำไปเร่ขายในชุมชน – เปิดสภาพถังหมัก หนอนไต่ยั้วเยี้ย ยิ่งค้น ยิ่งเจอ พฤติกรรมสุดสะพรึง นำสิ่งปฎิกูลหมักรวม ซากสัตว์ หัวเลียงผา หนอน เศษผม เศษขน อ้างดื่มแล้วรักษาทุกโรค สาวกเปิดใจ กินฉี่ และเสมหะพระบิดา รสชาติหอมหวานเพราะศรัทธา

วันที่ 11 พฤษภาคม ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจสภ.คอนสาร พร้อมด้วย นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ , สาธารสุขจังหวัดชัยภูมิ , เจ้าหน้าที่ป่าไม้ , เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และเจ้าหน้าปกครองส่วนท้องถิ่น นำหมายจังหวัดภูเขียวเพื่อเข้าค้น สำนักปฎบัติธรรม “พระบิดา” บ้านดงกลาง หมู่ 2 อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อทำการหาพยานหลักฐานในการสอบสวน และสิ่งกระความผิดอื่น ๆ เพื่อประกอบในสำนวน

ช็อกอีก! บุกโรงงานผลิต ปลาร้าพระบิดา ออกเร่ขาย – เปิดสภาพถังหมัก หนอนไต่ยั้วเยี้ย

นายชาญชัย รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า การตรวจค้นในวันนี้เพื่อตรวจสอบหลาย ๆ สิ่ง กับสำนักแห่งนี้ เพราะตอนนี้ยังมีข้อสงสัยอีกหลายเรื่อง อย่างเช่น เรื่องสุขอนามัย , กฎหมายที่ดินสาธารณะประโยชน์ , กฎหมาย พรบ.ป่าไม้ 2484 คือการบุกรุกพื้นที่ และสัตว์เลี้ยงของที่นี่เป็นสัตว์ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมลังมากว่า 50 นาย ทำการค้นทั้ง 5 จุดด้วยกัน

ซึ่งในส่วนของ นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขประจำจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล ตลอดจนกลุ่มคนที่มีความเชื่อที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งนำไปสู่การแพร่ระบาดโรค จึงอาจจะต้องมีคำสั่ง ห้ามให้มีผุ้คนอาศัยในสถานที่แห่งนี้ โดยจำเป็นจะต้องย้ายผู้คนออกไปตรวจโรค และ ทำการรักษา เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาด กำจัดเชื้อโรค

ส่วนของสาธารณสุขจะต้องตรวจสอบความสะอาดและสุขอนามัย อีกทั้งให้คำแนะนำ ผู้อาศัยในหมู่บ้านนี้ ส่วนกรณี การกินฉี่ กิน เสมหะ ที่แท้พระบิดาเจ้าวำนักไม่อยู่ ก็ยังมีการไปตักกินในหลุมที่เคยฉี่และคายเสมหะ ตรงจุดนี้ จะนำพรบ. เดือดร้อนรำคาญ และประกาศเป็นพื้นที่ห้ามสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และ ไม่ให้มีการกินฉี่ กินสิ่งปฏิกูลอีก หากยังไม่เขื่อก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย

ทั้งนี้ การตรวจค้นเวชระเบียน ในพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น และชัยภูมิ ไม่พบการเข้ารักษาของนายทวี หรือ พระบิดา ดังนั้นจึงไม่สามารถยืนยันข่าวที่ระบุว่า นายทวีป่วยตับอักเสบไวรัสบี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายตามจุดต่างตรวจค้น รอบสำนักพระบิดา โดยจุดแรกเป็นศาลาที่ทางพระบิดาให้พักอาศัย พบกระติกสีแดง ใส่น้ำมันเลียงผา และลูกศิษย์บางคนก็บอกมีส่วนผสม ของน้ำเหลืองศพ ด้วย

ถัดมาเป็นจุดที่ 2 คือ บริเวณห้องเก็บสินค้าบริโภค เป็นพวกขนม ที่ส่งขายตามรถเร่ ที่ขายตามหมู่บ้านต่าง ๆ โดยสาวกของพระบิดามีการขายขนมเหล่านี้ส่งจายกระจายตามพื้นที่ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง

ขนมที่ส่งขายนั้นเป็นที่น่าตกใจ คือถุงปลาหมึกแห้งปลาหวาน มีเชื้อราเต็มไปหมด จุดนี้ รองผู้ว่า ถึงกับร้องตกใจ ว่าทำไมเกิดแบบนี้และเรียกนายแพทย์สาธารณสุขเก็บตัวอย่าง และเตรียมดำเนินคดีส่วนของพรบ.อาหารและยา

เรื่องน่าตกใจไม่ใช่แค่ขนมขึ้นรา รองผู้ว่าและคณะเดินมาดูถังหมักปลาร้า กลิ่นเหม็นเน่าตลบอบอวน พอรองผู้ว่าเปิดฝาถังพลาสติกหมักปลาร้า ต้องผงะเพราะหนอนยั๊วะเยี้ย เต็มไปหมด กลิ่นเหม็นเน่า ข้าง ๆ กันก็มีถังพลาสติดสีขาวสภาพคือสกปรก เหม็นเน่า ภายในบรรจุปลาร้ามีแต่หนอน เต็มไปหมด

รองผู้ว่าถึงกับถอนหายใจและเรียกนายแพทย์สาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้องเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ โดยปลาร้านี้ พบว่ามีการนำมาทำแจ่วบองใส่กระปุกเล็ก ๆ ตระเวนขายในพื้นที่อำเภอคอนสาร และจังหวัดใกล้เคียง

จุดที่ 3 คือ บริเวณที่ประทับของพระบิดา จุดนี้พบหลักฐานที่อาจจะเข้าข่ายจะมีความผิดอยู่ 2 อย่าง คือ กระดูกขาช้าง ที่ตั้งไว้ติดกับที่ประทับ และหัวเลียงผา ที่เอาใส่ไว้กล่องติกปิดไว้อย่างแน่นหนา โดยส่วนนี้ได้ให้ตำรวจเก็บไว้นำตรวจสอบต่อไป

จุดที่ 4 บริเวณ ท้ายหมู่บ้าน มีกองไม้พะยูง ตัดวางเรียงไว้เป็นท่อน ๆ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจยึดและนำไปเก็บรักษา

จุดที่ 5 ในป่าใกล้กับกระต๊อบของพระบิดา พบมีการตั้งศาลไม้ ศาลพระภูมิ มีซากกระโหลกสัตว์ มีการเผากระดูก ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่า ของคนหรือสัตว์ มีสายสิน คล้ายกับทำพิธีกรรมบางอย่าง และมีถุงเสื้อผ้าเก่า รองเท้าวางไว้ จุดนี้เจ้าหน้าที่ต้องขุดดินลงไปดู ว่ามีการฝังหรือทำพิธีอะไรหรือไม่

จุดที่ 6 คือบริเวณที่เลี้ยงสัตว์ สัตว์ที่เลี้ยงไว้โดยเฉพาะกวาง วัว และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ มีการตรวจสอบ และหลังจากนี้หากสำนักถูกปิดไปแล้วไม่มีเจ้าของมาแสดงตัว จ้าหน้าที่ปศุสัตว์นำไปดูแล

โดยรองผู้ว่า เปิดเผยหลังตรวจค้นว่า จากการตรวจค้นในวันนี้เรียกได้ว่าพบสิ่งของที่อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะสินค้าที่เตรียมจะจำหน่ายออกไปในพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนชาวบ้านกว่า 30 คนที่ยังคงพักอาศัยในสำนักปฎิบัติธรรมแห่งนี้ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจแล้ว ซึ่งหลายคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้เวลา 7 วัน เพื่อขอให้ย้ายออก หากยังไม่ออกก็จะมีการดำเนินตามขั้นตอนกฏหมาย

ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ ยอมรับว่าตลอดที่ผ่านมาไม่ทราบเรื่องเลย ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ในจังหวัดชัยภูมิ หลังจากนี้ก็อยากขอความร่วมมือชาวบ้านในพื้นที่ หากยังพบเห็นว่าตัวของพระบิดา หรือใครก็ตามเข้ามาอีกให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที

ส่วนกรณีการกินปัสสาวะ และสิ่งปฏิกูลของพระบิดา ทีมข่าวเข้าไปยังบริเวณ หลุมฉี่ และหลุมปัสสาวะ ของพระบิดา พบลูกศิษย์กำลังเก็บของย้ายออกนอกพื้นที่

โดยคุณลุงท่านนี้ บอกว่า อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้นานหลายปี เดินทางจากจังหวัดบุรีรัมย์ มาอาศัยและขายขนมช่วยที่วัด จนมีรายได้สามารถซื้อที่ในหมู่บ้านใกล้ ๆ กันได้และสร้างบ้าน แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ เพราะอยู่กับพระบิดา มีความสุข อิ่มใจ

เรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมว่าสื่อที่นำเสนอข้อมูลออกไป ไม่เป็นความจริงทั้งหมด กรณีกระติกแดงใส่น้ำเหลือง ไม่เป็นความจริง เป็นแค่น้ำมันเลียงผาผสมเพื่อไว้เป็นยาทาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่มีน้ำเหลืองจากศพ ส่วนน้ำเหลืองจากศพ ที่ต้องต่อท่อสายยางออกมา เพื่อระบายน้ำเหลืองและนำไปฝั่งดินทิ้ง ไม่ได้มาทาผิวหรือกิน

ส่วนการกินอุจจาระ ไม่มีจริงไม่มีใครทำ แต่การกินเสมหะ และปัสสาวะ ตนยอมรับว่ากินจริง ๆ โดยคุณลุงท่านนี้ บอกว่าที่กินปัสสาวะ กินเสมหะ เพราะศรัทธา และเชื่อว่าการกินทั้งฉี่ และเสมหะ ของพระบิดานั้นเป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้กินทุกวัน แต่ก็กินเรื่อยๆ ส่วนเสมหะเวลาพระบิดาเทศน์สั่งสอน ก็จะคายเสมหะ ลงมาที่หลุม

ลูกศิษย์ที่ศรัทราก็ไปตักกิน และบางคนก็เอามาทาหน้าทาตัว โดยที่ไม่รู้สึกขยะแขยง เพราะศรัทธาในตัวพระบิดา ส่วนรสชาติฉี่ก็เป็นรสหวาน หอมกลมกล่อม ไม่ได้รู้สึกว่า คือสิ่งน่ารังเกียจ เป็นสิ่งดี ๆ ที่พวกตนศรัทธา

และตั้งแต่กินฉี่และเสมหะ พระบิดามา ก็ไม่เคยป่วยหรือมีโรคประจำตัวใด ๆ แต่หากออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ต้องไปหาหมอทุกเดือน

ตนรัก เคารพ และศรัทธาพระบิดามาก มีชีวิตทุกวันนี้ได้ ก็เพราะพระบิดา ในแต่ละวัน เวลาตื่นนอน ก็จะเคารพพระบิดาด้วยการกราบแบบมือประสานกัน ยกขึ้นเหนือศรีษะ สลับไปมา ก้มลงกราบ 9 ครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล

นอกจากคุณลุงดังกล่าวแล้ว ยังมีคุณป้าอีกท่านหนึ่งอายุ 65 ปี อาศัยที่กระต๊อบ ข้างบ่อน้ำทิพย์ เล่าว่า ตนเองเคยป่วยเป็นโรคไตอักเสบ ก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่ก็ กินยารักษา พอมาอาศัยอยู่ พระบิดาสอนให้กินฉี่ ตนก็กิน แต่กินของตัวเอง ต่อมาพบว่า อาการไตอักเสบหายเป็นปลิดทิ้ง แบบน่สแปลกใจ ไม่ต้องกินยาอีกแล้ว

ส่วนข้างบ้าน ก็มีหม้อต้มยาสุมนไพร หลายชนิดเรียกว่าน้ำมโหสถ ต้มไว้คอยดื่มและแบ่งเพื่อนบ้านดื่มแก้อาการปวดเมื่อย ใครที่ปวดเมื่อยมาดื่มก็หาย

ส่วนข้างกระต๊อบของคุณป้าคนนี้ พบว่า มีโลงศพ และภายในโลงกลิ่นเหม็น คุณป้าบอกว่า แต่ก่อนใส่ศพเด็ก แต่ตอนนี้เอาออกไปแล้วมเลยเก็บโลงไว้ ข้าง ๆ โลงก็เป็นถังหมักปลาร้า ทำปลาร้าแจกจ่ายคนในหมู่บ้านกินกัน สภาพที่เห็นคือถังใส่ปลาร้ามีผ้ายางคลุม มีของวางไว้ข้างๆ พะรุงพระรัง และมีเศษขยะ กระจายอยู่ ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง