Lifestyle

แพทย์เตือนภัย ลัทธิประหลาด ‘พระบิดา’ เสี่ยงรับเชื้อแบคทีเรีย-พยาธิ

แพทย์เตือน “พระบิดา” ลัทธิประหลาดรักษาโรค กินของเสียจากร่างกาย เสี่ยงเชื้อโรค แบคทีเรีย พยาธิ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรณีลัทธิประหลาด พระบิดา ที่ใช้ปัสสาวะ อุจจาระ รักษาโรค โดยหลักวิทยาศาสตร์แล้ว  เป็นของเสียที่ถูกขับออกมาจากร่างกาย ซึ่งในอุจจาระมีเชื้อโรค แบคทีเรีย มีพยาธิ เชื้อรา ส่วนปัสสาวะ แม้จะผ่านการกรองออกจากร่างกาย แต่ก็ไม่สมควรนำไปรับประทานอยู่ดี

พระบิดา1

 

ทั้งนี้ โดยปกติในคนที่มีโรค หรือ มีการติดเชื้อทางเดินทางอาหาร การรับประทานอุจจาระ ก็สามารถได้รับเชื้อโรคจากอุจจาระได้

สำหรับคนที่รับประทานทั้งอุจจาระ และ ปัสสาวะ เสมหะ หรือ หนอง แล้วรู้สึกผิดปกติ ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรบริโภค

598181
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

ด้าน นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความเชื่อจากการกินอุจจาระ ปัสสาวะ นี้ เป็นความเชื่อที่ขาดหลักเหตุผล เข้าข่ายงมงาย หลัก ๆ เกิดจากคนมี 3 ภาวะที่เป็นสาเหตุ 1. มีความทุกข์มาก 2. วัฒนธรรมความเชื่อเฉพาะถิ่น มีไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง และ 3. อิทธิพลจากเพื่อนหรือคนรอบข้างเป็นแรงเสริม

หากมีครบทั้ง 3 ภาวะ ถือว่าเป็นความเชื่อที่เป็นความงมงายที่รุนแรง ยิ่งมีการรวมกลุ่มกัน ยิ่งเป็นการเสริมความเชื่อซึ่งกันและกัน ให้เกิดการสนับสนุนความเชื่อซึ่งกันและกัน

สำหรับวิธีการสลายความเชื่อนี้ ต้องมีการสลายกลุ่ม โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล อาจนำคนเหล่านี้มาบำบัดรักษาได้

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์

ด้าน นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และโฆษกกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งปฏิกูลในร่างกาย ไม่ว่าจะถูกขับออกมาทางไหนของร่างกาย ล้วนมีเชื้อโรคทั้งสิ้น ยกเว้นปัสสาวะของคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรค จะไม่มีเชื้อโรค

แต่ตามหลักจะไม่แนะนำให้มีการดื่มปัสสาวะอยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่ร่างกายขับสารของเสียที่เกินความจำเป็นของร่างกายออกมา และหากเป็นปัสสาวะที่อยู่ในร่างกายของคนที่มีโรคประจำตัว ก็อาจจะมีเชื้อโรคอยู่ในปัสสาวะ เช่น โรคทางเพศสัมพันธ์ หนองใน ยิ่งหากทิ้งปัสสาวะไว้ในอุณหภูมิห้อง จะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตในปัสสาวะได้ด้วย

นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา
นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา

ส่วนการกินสิ่งปฏิกูลอื่นๆ เช่น อุจจาระ ขี้ไคล ที่มีเชื้อโรคจำนวนมากปนอยู่แล้ว ไม่ควรนำมากิน การที่ลำไส้ใหญ่ได้รับเชื้อโรคจากสิ่งปฏิกูลเหล่านี้ ย่อมส่งผลต่อร่างกายในอาการโรคต่าง ๆ เช่น ท้องเสีย โรคติดต่อทางเดินอาหาร

ขณะที่บนผิวหนังร่างกายของคนเรามีเชื้อโรคอยู่แล้ว เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา กลากเกลื้อน และยิ่งมีการบริโภคทางร่างกาย เท่ากับรับเชื้อโรคเหล่านี้เข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น หากในช่องปากมีแผล อาจจะทำให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้นไปอีก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo