“นายกรัฐมนตรี” เรียกประชุมด่วน! ถกรับมือผลกระทบจากการสู้รบของรัสเซียและยูเครน พร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลคนไทย ย้ำทุกประเทศคือมิตร การแสดงท่าทีต้องรอบคอบ ระมัดระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือผลกระทบจากการสู้รบของรัสเซียและยูเครน และการให้ความช่วยเหลือดูแลคนไทย โดยมีรองนายกรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เป็นต้น
ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ (28 ก.พ.) เพื่อติดตามสถานการณ์ และพัฒนาการในยูเครน ซึ่งทวีความตึงเครียดขึ้นด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไม่มากก็น้อยต่อทุกประเทศ เนื่องจากทุกประเทศมีความสำคัญทางเศรษฐกิจกับไทย ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัด คือราคานํ้ามันที่สูงขึ้น ราคาหุ้นและคริปโตลดลง เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบแน่นอนหากสถานการณ์ยืดเยื้อ
หาช่องทางช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศหาช่องทางช่วยเหลือ และขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป นอกจากเตรียมแผนอพยพคนไทยออกจากยูเครนแล้ว ยังสั่งการให้เตรียมแผนและมาตรการรองรับผลกระทบอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย ทั้งสถานการณ์น้ำมัน ตลาดหลักทรัพย์ อัตราแลกเปลี่ยน และการค้าและการลงทุน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างรอบด้าน โดยที่ประเทศไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศ ดังนั้น การดำเนินการใด ๆ ขอให้ทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง เหมาะสม และพร้อมรับมือหากสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น
แถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง
ด้านนายดอน กล่าวว่า ในส่วนของไทยได้ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง และสนับสนุนความพยายามที่ยังคงดำเนินอยู่ เพื่อการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติผ่านการหารือ ในขณะที่อาเซียนออกถ้อยแถลงรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่ผันผวนและความขัดแย้งกันด้วยอาวุธในยูเครน
พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการหารือผ่านทุกช่องทาง รวมถึงช่องทางการทูต เพื่อควบคุมสถานการณ์ ลดความตึงเครียด ซึ่งไทยยินดีกับความคืบหน้าที่ทั้งสองฝ่ายตกลงนัดจะเจรจากัน ทั้งนี้ ไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า แม้ไทยจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการนำเข้าพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว แต่กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น โดยเตรียมความพร้อมด้านปริมาณสำรองพลังงานไว้ รวมทั้งเตรียมมาตรการบรรเทาให้เกิดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์วิกฤตินี้ และร่วมกันใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กสิกรไทย’ จับตา ‘วิกฤติยูเครน-คว่ำบาตรรัสเซีย’ กระทบ ‘ส่งออก-เศรษฐกิจ’ ไทย
- สหรัฐ – ยุโรป ถอด ‘ธนาคารรัสเซีย’ บางแห่งพ้นระบบชำระเงิน ‘สวิฟต์’
- ‘ปิดล้อมกรุงเคียฟ’ เป้าหมายหลักรัสเซีย – ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ไหลเข้าโปแลนด์
