General

วันนี้มีม็อบ!! ตำรวจเตรียมกำลังรับมือ ‘ม็อบทะลุฟ้า’ เตือนคล้องแขนเดินชุมนุมก็ผิด

วันนี้มีม็อบ!! ตำรวจเตรียมกำลังรับมือ “ม็อบทะลุฟ้า” นัดทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ บ่ายวันนี้ เตือนคล้องแขนเดินชุมนุมก็ผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ

ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า วันนี้ม็อบที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มทะลุฟ้า” นัดชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจากนั้นจะขึ้นไปทำกิจกรรมที่ถนนวิภาวดีรังสิต ในการเตรียมความพร้อมของกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการจัดเตรียมกำลังเพียงพอต่อการรักษาความสงบ ยืนยันว่าการปฏิบัติของ บช.น. เน้นเรื่องรักษาความสงบเรียบร้อย ถ้าพิจารณาว่ายังไม่มีเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จะยังคงรักษาแนวที่ตั้งจนกระทั่งเกิดความรุนแรงขึ้น

ม็อบทะลุฟ้า
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวรนครบาล

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการปฏิบัติจะไม่ให้กระทบต่อประชาชนที่ไม่มีส่วนร่วม โดยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะต้องปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมาย ขอความร่วมมือไปยังประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิต่อเนื่องถึงสามเหลี่ยมดินแดงและถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา มักจะเกิดความรุนแรง ย้ำเตือนว่าปัจจุบันมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การชุมนุมถือว่าเป็นความผิด และเมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนติดเชื้อโควิด เป็นห่วงว่าผู้ร่วมชุมนุมจะได้รับผลกระทบตรงนี้ด้วย

คล้องแขนเดินชุมนุมก็ผิด

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้สรุปการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมในห้วงที่ผ่านมาว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมแล้วทั้งสิ้น 300 คดีสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 199 คดี คงเหลืออยู่ระหว่างการสอบสวน 105 คดี ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินกับผู้ที่กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทุกราย

ทั้งนี้ ฝากเรียนเตือนตามที่มีการชักชวนตามสื่อสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดียโดยเฉพาะในวันนี้ ที่กลุ่มทะลุฟ้าประกาศรวมตัวกันเวลา 15:00 น และเชิญชวนผู้ชุมนุม ชุมนุมในลักษณะคล้องแขนไปตามถนนต่าง ๆ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปที่ถนนวิภาวดีว่า กรุงเทพฯ เป็นพื้นประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การคล้องแขนกันเป็นการสัมผัสกันโดยตรง แม้ว่าจะใส่หน้ากากแล้วก็ตาม ลักษณะนั้นยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การกระทำเช่นนั้นจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อด้วย

ม็อบทะลุฟ้า
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ช่วงหลังดำเนินการสลายการชุมนุมอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ล่าสุด แค่เพียงรวมตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าสลายแล้ว พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ชี้แจงว่า หลักเกณฑ์การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ชัดเจน หากผู้ชุมนุมไม่ก่อความรุนแรง เจ้าหน้าที่จะพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากการชุมนุมเจ้าหน้าที่ทราบอยู่แล้วว่า มีการสะสมอาวุธ จะก่อเหตุความรุนแรง เราจึงเข้าทำการระงับเพื่อให้เหตุการณ์คลี่คลาย

อย่างการชุมนุมครั้งล่าสุด เมื่อมีการรวมตัวเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในที่ตั้งกระทั่งมีการปิดถนน และมีการวางเพลิงเผาทรัพย์สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และในขณะนั้นพบว่า ผู้ชุมนุมมีอาวุธหลายรายการที่จะก่อเหตุรุนแรง จึงเคลื่อนกำลังออกมาระงับในเบื้องต้น เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็สั่งกำลังกลับเข้าที่ตั้ง

หลังจากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเคลื่อนที่ไปที่สามเหลี่ยมดินแดง ๆ และมีการเผาทำลายทรัพย์สินรถยนต์ ของทางราชการ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าระงับ ตำรวจเน้นเรื่องการรักษาความสงบ หากมีความจำเป็นเราก็ต้องดำเนินการ ยืนยันดำเนินการตามขั้นตอน ตำรวจคงไม่มีเจตนาไปไล่ตีประชาชน หรือผู้มาร่วมชุมนุมถ้าไม่มีเหตุ จริง ๆ แล้วก็เป็นประชาชนคนไทยทั้งนั้น

ยันดำเนินการตามหลักนิติธรรมนิติรัฐ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามหลักนิติธรรมนิติรัฐ ที่ผ่านมาได้มีการเตือนตลอดไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้รับทราบ อย่างที่เห็นบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงช่วงต้นเจ้าหน้าที่ได้รักษาพื้นที่ไว้ ตำรวจก็ถอยกลับที่ตั้ง แต่หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงก่อความไม่สงบเรียบร้อยอยู่เป็นระยะ มีการขว้างปาพยายามที่จะรื้อลวดหนาม มีการทุบทำลายเผารถยก ทรัพย์สินของทางราชการที่ใช้เพื่อเป็นประโยชน์ของสาธารณะเสียหายทั้งหมด กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้กระจายก่อความเสียหายโดยรวม โดยการทุบทำลายตู้ยามป้อมสัญญาณไฟจราจรเสียหายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องระงับยับยั้งป้องกันเหตุร้ายไม่ให้ลุกลามบานปลาย

ม็อบทะลุฟ้า
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง การจัดกิจกรรมในลักษณะคาร์ปาร์ก ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่า หลายจังหวัดจะมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานกันไป อยากฝากเรียนว่า นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการรักษาความเรียบร้อยถ้ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการดำเนินงานภายหลังหรือเข้าระงับเหตุตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo