General

‘วันเอดส์โลก’ 1 ธันวาคม ‘WALK TOGETHER : เอดส์อยู่ร่วมกันได้ ไม่ตีตรา’

 

วันเอดส์โลก (World AIDS Day) ตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ได้ถูกตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ ซึ่งได้คร่าชีวิตของผู้ป่วยโรคนี้ไปกว่า 25 ล้านคนแล้วทั่วโลก

โรคเอดส์เริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี  2524 แต่ในขณะนั้นจะรู้จักเพียงเฉพาะกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ต่อมามีการแพร่ระบาดโรคนี้ไปอย่างรวดเร็ว และทั่วโลก จนมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากจนเป็นที่น่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา

วันเอดส์โลก

HIV ย่อมาจาก human Immunodeficiency Virus เชื้อไวรัสนี้เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ โดยเชื้อเอชไอวีจะเข้าทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค ให้ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้ามาในร่างกายเวลาที่เราเจ็บป่วย

AIDS ย่อมาจาก Acquired Immunodeficiency Syndrome (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง) โรคเอดส์จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายถูกเชื้อเอชไอวีบั่นทอนให้อ่อนแอลง จนถึงขั้นที่ร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้อีก จนเริ่มติดเชื้อ หรือเกิดเป็นโรคต่างๆ

โรคเอดส์พบครั้งแรกในเดือนมิถุนายน  2524 ที่สหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยเป็นชายรักร่วมเพศ ป่วยเป็นปอดบวมจากเชื้อ นิวโมซีสตีส แครินิอาย (Pneumocystis Carinii) ทั้งที่เป็นคนแข็งแรงมากมาก่อน และไม่เคยใช้ยากดภูมิต้านทาน

ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าเซลล์ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทาน ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ จากการศึกษาย้อนหลัง พบว่าโรคนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกในปี 2503 และต่อมาได้แพร่ไปยังไฮติ ทวีปอเมริกา ยุโรปและเอเซียรวมทั้งประเทศไทยด้วย

ในปี  2526 ลุค มองตากนิเอร์ ชาวฝรั่งเศส สามารถแยกเชื้อจากต่อมน้ำเหลืองของผู้ป่วย และตั้งชื่อว่า Lymphadenopathy Assoiciated Virus หรือ LAV และในเวลาใกล้เคียงกัน โรเบิร์ต แกลโลก นายแพทย์ชาวอเมริกันก็สามารถแยกเชื้อจากเม็ดเลือดขาวของผู้ป่วย และตั้งชื่อว่า Human T cell Lymphotropic Virus Type III หรือ HTL V III

ต่อมา เลวีย์ นายแพทย์ชาวอเมริกัน สามารถแยกเชื้อชนิดเดียวกันนี้ และตั้งชื่อว่า AIDS related virus จากการศึกษาในเวลาต่อมา พบว่าเชื้อทั้ง 3 ตัวนี้น่าจะเป็นเชื้อตัวเดียวกัน จึงตกลงตั้งชื่อให้เป็นสากลว่า Human Immounodeficiency Virus หรือ HIV

วันเอดส์โลก

สำหรับผู้ป่วยเอดส์รายแรกในประเทศไทยนั้น เป็นชายอายุ 28 ปี เดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกา และมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ เริ่มมีอาการในปี 2526 ได้รับการตรวจ และรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา พบว่าปอดอักเสบจากเชื้อ Pneumocystis Carinii แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นโรคเอดส์ จึงกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทยในปี 2527 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ในช่วง ปี  2527 จนถึงปี 2533 จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคเอดส์มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจึงได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ โดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบให้มีคณะกรรมการประสานงานเกี่ยวกับโรคเอดส์แห่งชาติ ตั้งแต่ปี  2528 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน

และเพื่อให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคเอดส์ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ องค์การอนามัยโลกจึงได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี เป็น วันเอดส์โลก ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2531 เป็นปีแรก โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ คือ

  • เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายจากการติดต่อและการเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์
  • เพื่อสร้างเสริมและสนับสนุนให้มีมาตรการการป้องกันให้มากยิ่งขึ้นในสังคมทุกระดับ
  • เพื่อให้มีการจัดกิจกรรมต่อต้านต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
  • เพื่อส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ
  • เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

ในทุกวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ทั่วโลกจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันเอดส์โลก เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนได้ให้ความเห็นใจและห่วงใยต่อผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย ตลอดจนให้ทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ อันจะเป็นแนวทางหนึ่ง ที่จะทำให้การขยายตัวของโรคนี้ลดน้อยลง

ขณะที่ในไทยนั้น จากการประเมินล่าสุด พบว่า หากนับถึงสิ้นปี 2563 นี้  ไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 472,376 คน เอชไอวีรายใหม่ 4,855 ราย/ปี (เฉลี่ย 33 ราย/วัน)  และจำนวนผู้ติดเชื้อ ที่เสียชีวิตจากเอชไอวี 11,882 ราย/ปี (เฉลี่ย 32 ราย/วัน) 

ส่วนผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย 90-90-90 ของกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2562 พบว่า มีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ และรู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง ร้อยละ 99.8
ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมด แต่มีผู้ติดเชื้อ ที่รู้สถานะ และได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเพียงร้อยละ 79.9 ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการวินิจฉัย และในจำนวนของผู้ที่กำลังรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สามารถกดไวรัสในกระแสเลือดได้สำเร็จ ร้อยละ 97.3

shutterstock 98186804

สำหรับวันเอดส์โลกในปีนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชูแนวคิด “WALK TOGETHER : เอดส์อยู่ร่วมกันได้ ไม่ตีตรา” โดยมีเป้าหมายคือ ทุกคนมีบทบาทสำคัญ และมีส่วนร่วมในการก้าวไปด้วยกัน ก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อลดการตีตรา และเลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อเอชไอวี และเพศภาวะ

โดยสร้างความตระหนักและความเข้าใจ อย่างถูกต้องว่า “เอดส์เป็นเรื่องธรรมดา” ไม่ใช่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่น่ารังเกียจ และน่ากลัว และไม่ได้ติดต่อกันได้ง่ายๆ ผู้มีเชื้อเอชไอวี มีสิทธิ เสรีภาพ ในการดำรงชีวิต ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคม ไม่บังคับตรวจเอชไอวี ไม่เปิดเผยผลเลือดของผู้อื่น และไม่นำผลเลือดมาเป็นเงื่อนไขในการเข้าทำงาน การเข้าศึกษา การรับบริการ ด้านสุขภาพ

การก้าวไปด้วยกันเพื่อลดการตีตรา และเลือกปฏิบัติจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากบุคคล องค์กร และสังคม อันจะส่งผลให้ผู้มีเชื้อเอชไอวีสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และได้รับการบริการที่เท่าเทียม ซึ่งนำไปสู่ การยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทยภายในปี 2573 ต่อไป

ที่มา : วิกิพีเดีย, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo