General

กระทรวงเกษตรฯ จับมือกระทรวงทรัพย์ฯ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนเขาใหญ่ใน 30 วัน 

กระทรวงเกษตรฯ จับมือกระทรวงทรัพย์ฯ เดินหน้าหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนเขาใหญ่ เร่งด่วน วางกรอบการดำเนินงานร่วมกัน 30 วัน

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในเขตป่า ประเด็นปัญหาเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดินทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ปัญหาที่ดินทับซ้อน

นายประยูร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดินทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกระทรวงเกษตรฯ และ ทส. เห็นชอบร่วมกันในการพิจารณาแนวเขตที่ดินทับซ้อนในบริเวณที่มีปัญหา ซึ่งวางกรอบการดำเนินงานร่วมกันเป็นระยะเวลา 30 วัน

ทั้งนี้ หากพื้นที่ใดมีการทับซ้อนและไม่สามารถตกลงกันได้ว่าอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานใด จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน1 : 4000 (One Map) พิจารณาชี้ขาด

จากนั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ จะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อให้เกิดความชัดเจนระหว่างทั้งสองหน่วยงาน ที่จะดำเนินการจัดสรรหรือบริหารจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างเต็มที่ต่อไป

ประยูร อินสกุล
ประยูร อินสกุล

ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่อง ขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวเขตการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร กรณีเป็นที่ดินที่ไม่เคยจัดให้แก่บุคคลใดตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

ในการดำเนินงาน จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินของรัฐ รวม 9 หน่วยงาน ร่วมทำหน้าที่พิจารณาตรวจสอบแนวเขตการถือครองทำประโยชน์ที่ดินที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยให้พิจารณาว่า ทับซ้อนหรือรุกล้ำแนวเขตที่ดินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและโปร่งใส

ขณะเดียวกัน ยังมอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบผู้ถือครองและทำประโยชน์
ในเขตปฏิรูปที่ดินที่ต้องเป็นเกษตรกรตัวจริงเท่านั้น และถ้าพิสูจน์ได้ว่าเกิดการกระทำผิด ก็จะดำเนินการทางวินัยอย่างเคร่งครัด

ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนและการพิจารณาแนวเขตที่ดินเพื่อจัดที่ดิน จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo