General

ด่วน!! ประกาศปิดอ่าวไทย ประจำปี 2567 เริ่ม 15 ก.พ.นี้ เช็กรายละเอียดที่นี่

กรมประมง ประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวไทย บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2567 เริ่มวันแรก 15 กุมพาพันธ์นี้ หวังฟื้นฟูสัตว์ทะเลวางไข่

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานใน พิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2567 ณ ท่าเทียบเรือประมงชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

ปิดอ่าวไทย

สำหรับมาตรการดังกล่าว ยังคงเป็นมาตรการที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมาตรการปิดอ่าวไทย จะครอบคลุมพื้นที่บริเวณอ่าวไทย โดยแบ่งพื้นที่ดังนี้

บริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง 2 ช่วงระยะเวลา

  • ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  • ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม-14 มิถุนายน 2567 ในบริเวณอาณาเขตตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวประจวบ

บริเวณพื้นที่อ่าวไทยรูปตัว ก 2 ช่วงระยะเวลา

  • ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน-15 สิงหาคม 2567 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
  • ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-30 กันยายน 2567 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในด้านเหนือของจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

มาตรการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำฝั่งทะเลอ่าวไทยซึ่งเป็นแหล่งวางไข่และอาศัยเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำหลายชนิด ด้วยการคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีความสมบูรณ์เพศพร้อมผสมพันธุ์วางไข่ และปกป้องสัตว์น้ำวัยอ่อนให้มีโอกาสเจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำรุ่นต่อไป

ปิดอ่าวไทย

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินมาตรการฯ ในปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าปริมาณการจับปลาทูในอ่าวไทยมีปริมาณมากถึง 41,310 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,316.57 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 5,602 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 659.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16% ของปริมาณการจับ (ปี 2565 ปริมาณ 35,708 ตัน มูลค่า 2,657.49 ล้านบาท )

นอกจากนี้ ยังพบว่าพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์ในอัตราที่สูงเกือบ 100% อีกทั้งยังพบการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลังและสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดอื่นในพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการฯ ที่ใช้มีความสอดคล้อง ถูกต้อง และเหมาะสมทั้งในด้านพื้นที่ ช่วงเวลา และเครื่องมือที่มีการประกาศใช้มาตรการฯ

พร้อมกันนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส ยังได้ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการประกาศใช้มาตรการฯ และปล่อยเรือตรวจการออกปฏิบัติการ ประกอบด้วย

  • เรือตรวจประมงทะเล702
  • เรือตรวจประมงทะเล 619
  • เรือตรวจประมงทะเล 613
  • เรือตรวจประมงทะเล 611
  • เรือตรวจประมงทะเล 324
  • เรือตรวจประมงทะเล 220
  • เรือตรวจประมงทะเล 208
  • เรือตรวจประมงทะเล 113
  • เรือตรวจประมงทะเล 105
  • เรือศรชล.ภาค 2
  • เรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  • เรือตำรวจน้ำและเรือตรวจคนเข้าเมือง

เรือ

ในงานดังกล่าว ยังได้มอบแผ่นป้ายเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมง (กิจกรรมพัฒนาอาชีพชุมชนประมง) ประจำปี 2567 ให้แก่ประธานองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น 9 ชุมชนในเขตจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ มอบหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอจดทะเบียนเรือไทย สำหรับเรือประมงพื้นบ้าน 7 ราย มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 50 ราย และร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 6.54 แสนตัว เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์และเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทย

ปิดอ่าว

ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการนำเสนอข้อมูลความรู้ทางด้านประมงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการฯ อาทิ ผลงานวิชาการสำรวจข้อมูลสัตว์น้ำ มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทย การจดทะเบียนเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ กิจกรรมขยะทะเลคืนฝั่งทะเลสวยด้วยมือเรา การควบคุมการทำประมงในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ นิทรรศการสิ่งมีชีวิต อาทิ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำปลากระบอกดำ ปลาการ์ตูน ปลาหมอชุมพร 1 การบริหารจัดการทรัพยากรปูม้า ตลอดจนการแปรรูปสัตว์น้ำและจัดแสดงสินค้าประมงธงเขียว

ด้าน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการปิดอ่าวไทย ถือเป็นภารกิจหลักที่กรมประมงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องชาวประมงในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำอย่างคุ้มค่า

สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการส่งเสริมและเร่งฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งอาชีพชาวประมงให้กินดี อยู่ดี และมีรายได้อย่างยั่งยืน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo