General

วันสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก ‘GSK’ รณรงค์ป้องกันโรคด้วยวัคซีน

“วันสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก” GSK รณรงค์ป้องกันโรคด้วยวัคซีน ป้องกันการเสียชีวิตได้ประมาณ 3.5-5 ล้านคนต่อปี เดินหน้าค้นคว้าวิจัยยาและวัคซีนป้องกันโรคภัย

ในเดือนพฤศจิกายนเป็น วันสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก (World Immunization Day) มีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีน โดยวัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญในการหยุดการแพร่กระจายของโรคระบาด ป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

วันสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก

จากข้อมูลของ องค์การอนามัยโลก (WHO) การฉีดวัคซีนสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ประมาณ 3.5 – 5 ล้านคนต่อปีจากโรคต่าง ๆ ทั้ง โรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ไข้หวัดใหญ่ และหัด

พญ.พธู บุญมหิทธิสุทธิ์ หัวหน้าฝ่ายการแพทย์ แผนกวัคซีน บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK บริษัท Biopharma กล่าวว่า GSK ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้ป่วยและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมุ่งมั่นในการค้นคว้าวิจัยยาและวัคซีน เพื่อให้สามารถก้าวนำการป้องกันโรคภัยต่าง ๆ

ขณะเดียวกัน ยังพร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนในการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความจำเป็นของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย

ทั้งนี้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ถือเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อง่าย จึงควรเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากภูมิต้านทานต่ำจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรค รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรค

Phatu Boonmahittisut

การสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นองค์ประกอบสำคัญของการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เพื่อป้องกันการเกิดโรค ลดความรุนแรงของโรคและลดการเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันมีโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ประชาชนควรเข้ารับการตรวจสุขภาพกับแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่างๆ และหาแนวทางการป้องกันโรคที่เหมาะสม เช่น การรับวัคซีน

ปัจจุบันมีหลายโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ รวมถึง ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

นพ. วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด เป็นตัวช่วยวิธีหนึ่งสำหรับการป้องกันโรคงูสวัด ซึ่ง 9 ใน 10 ของคนที่อายุมากกว่า 50 ปี มีเชื้อไวรัสก่อโรคงูสวัดอยู่ในร่างกาย โดยเป็นเชื้อก่อโรคตัวเดียวกับเชื้อที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส

ทั้งนี้ ถึงแม้จะหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เมื่อภูมิต้านทานลดลง เชื้อไวรัสที่ซ่อนอยู่ที่ปมประสาทอยู่เงียบ ๆ จะแผลงฤทธิ์อีกรอบในรูปของโรคงูสวัด เกิดเป็นตุ่มน้ำใสตามแถบของร่างกาย ทำให้เกิดแผลเป็นที่ลำตัว แขน ขา หรือที่ใบหน้า นอกจากทำให้เกิดแผลเป็นแล้ว ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากงูสวัดยิ่งร้ายแรงมากกว่า

นพ. วีรวัฒน์ มโนสุทธิ

โรคงูสวัดเป็นโรคที่มีภัยซ่อนเร้นมากมาย ที่อาจนึกไม่ถึง แต่สามารถป้องกันได้ เราไม่จำเป็นต้องทุกข์ทรมานกับโรคงูสวัด บางคนมีอาการปวดจากโรคงูสวัดนานเป็นเดือน บางคนปวดนานเป็นปี เพราะอาการปวดปลายประสาทมีความรุนแรงมาก

นอกจากนี้อาจทำให้หลอดเลือดเกิดการอักเสบ และ ตีบตัน สามารถทำให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตขึ้นได้ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและรุนแรงมาก กลุ่มเสี่ยงต่อโรคงูสวัด คือกลุ่มที่อายุมากกว่า 50 ปีทุกคน และกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ล่าสุด มีข้อมูลการศึกษาออกมาแล้วว่า วัคซีนสามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo