ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สบส. และอย. ทลายขบวนการรักษามะเร็งทิพย์ อวดอ้างสรรพคุณยาพลังวิเศษ รักษาประชาชน จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย ตรวจยึดของกลางมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ แถลงผลการปฏิบัติการทลายขบวนการรักษามะเร็งทิพย์อวดอ้างพลังวิเศษ และสรรพคุณยาเกินจริง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระนรสีห์ วัดเขาพระครุฑ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องจากมีพฤติกรรมเปิดวัดเป็นสถานที่รักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไป และมีการเรียกเก็บค่ายาในราคาสูง
นอกจากนี้ ยาที่ขายให้กับผู้เข้ารับการรักษาเป็นยาชนิดแคปซูล ไม่มีฉลาก เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ และมีการเผยแพร่การรักษา และการเชิญชวน ให้ประชาชนทั่วไปเข้ารับการรักษาผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ สำนักพระกรรมฐานศากยาราม
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้ทำการตรวจสอบเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว พบว่า ได้มีการโพสต์รูปภาพ วิดีโอการรักษาโรค และข้อความสื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าใจว่า พระนรสีห์ฯ กับพวกสามารถตรวจรักษา โรคมะเร็งโรคเบาหวาน โรคร้ายแรงอื่น ๆ หายขาดใน 1-3 เดือน
อีกทั้งมีการโพสต์ข้อความโอ้อวดสรรพคุณการรักษาโรคของผลิตภัณฑ์ มหาโอสถหลวงพ่อนรสีห์ (หงส์เกี้ยวมังกร, ตะวันฉาย, เลือดมังกร และจันทร์ฉาย) ว่ามีสรรพคุณการรักษาโรคครอบจักรวาล รวมถึงการโพสต์ที่มาของวิชาการรักษาโรคมะเร็งว่า ค้นพบจากการกรรมฐานรักษาสุนัขชื่อ ปีใหม่ ที่ป่วยเป็นมะเร็งจนหาย เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามีพลังวิเศษในการรักษาโรค
เมื่อทำการสืบสวน ทราบว่า พระนรสีห์ฯ มีพฤติกรรมเปิดวัดเป็นสถานที่รักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไป และมีประชาชนหลายคนนั่งรอรับการตรวจรักษาจริง โดยมีผู้ร่วมขบวนการ ดังนี้ 1. น.ส.อรินดาฯ (สงวนนามสกุล) 2. นายเดชชรินทร์ฯ (สงวนนามสกุล) 3. น.ส.อารียา หรือมดฯ (สงวนนามสกุล) 4. นายรวีวัชรฯ (สงวนนามสกุล) และ 5. นางวชิรอักษราฯ (สงวนนามสกุล)
จากการส่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่อวดอ้างสรรพคุณการรักษาส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนประกอบเป็นชิ้นส่วนพืชและชิ้นส่วนอื่นที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชนิดใด ประกอบกับมีการโพสต์แสดงข้อความว่ามีสรรพคุณรักษาโรคได้ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงจัดเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพรแต่อย่างใด
จากพฤติการณ์ของพระนรสีห์ฯ กับพวก เป็นการร่วมกันหลอกลวงประชาชนโดยทั่วไป ด้วยการโพสต์ข้อความที่สื่อให้เข้าใจว่า พระนรสีห์ฯ กับพวก สามารถตรวจรักษาโรค รวมทั้งอวดอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ยาของตนว่าสามารถรักษาโรคร้ายแรงต่าง ๆ ให้หายขาดได้
พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. จึงทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พระนรสีห์ กับพวกรวม 6 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง 104 รายการ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท รวมทั้งพบว่า สำนักกรรมฐานศากยราม ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดกับ พระนรสีห์ และผู้ช่วยอีก 5 ราย ในเบื้องต้น ประกอบด้วย
1. พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ฐาน ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต
2. พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐาน ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ประมาลกฏหมายอาญา ฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาน
4. พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 ฐาน
- ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับ
- ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตฃ
- ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะโอ้อวดสรรพคุณว่าสามารถบำบัดรักษา บรรเทาหรือป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยได้อย่างศักดิ์สิทธิ์หรือรักษาโรคให้หายขาดได้ และแสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินความจริง
5. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ฐาน ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
พร้อมกันนี้ กรม สบส. ได้เน้นย้ำให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกรับบริการรักษาพยาบาลทุกประเภท ขอให้เลือกรับบริการจากแพทย์ และสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น อย่าหลงเชื่อการโฆษณาอวดอ้างจากสื่อโซเชียล หรือจากคำบอกเล่าจากบุคคลอื่นว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรคเรื้อรังให้หายขาด
โดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน, โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต, โรคทางจิตเวช, โรคความดันโลหิต, โรคทางสมอง หัวใจและหลอดเลือด และโรคเอดส์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่าสามารถรักษาอาการของโรคดังกล่าวให้หายขาดได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อย่าเชื่อ! โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพร หายเร็ว หายไว ไม่มีอยู่จริง
- เช็กด่วน!!3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถูกยกเลิกเลขอนุญาต แต่ยังโฆษณาโอ้อวดเกินจริง
- อย. เตือน! ตรวจพบ ‘สารต้องห้าม’ ใน ‘เครื่องสำอาง’ 3 รายการ จากร้านค้าออนไลน์
