General

อคส. ร้องกรมบัญชีกลาง ขอยืดเวลาใช้เงินงบประมาณปี 62-63 ไว้สู้คดีจำนำข้าว 1,143 คดี

อคส. ส่งหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง ขอขยายเวลาเก็บรักษาเงินงบประมาณปี 2562-2563 ที่เหลือเกือบ 800 ล้านบาท เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีจำนำข้าว 1,143 คดี รวมความเสียหายกว่า 4.94 แสนล้านบาท 

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้พิจารณาขยายระยะเวลาเก็บรักษาเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ 2562 และปีงบ 2563 รวมทั้งสิ้น 780.26 ล้านบาท ไปจนถึงเดือน มี.ค.2567 หรือจนกว่าภาระผูกพันในการดำเนินโครงการของรัฐบาล หรือภาระผูกพันทางคดีที่ อคส. ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งก็คือ การต่อสู้ทางคดีจนถึงศาลฎีกาเสร็จสิ้น จากเดิมที่กรมบัญชีกลางได้ขยายระยะเวลามาแล้ว 4 ปี และสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566

สู้คดีจำนำข้าว

สำหรับ อคส. ได้รับจัดสรรปีงบ 2562 และปีงบ 2563 รวม 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งได้นำมาใช้ดำเนินการต่าง ๆ เช่น เป็นค่าธรรมเนียมศาล ในการต่อสู้คดีที่ อคส. ฟ้องร้องผู้กระทำผิดในโครงการรับจำนำข้าว 1,143 คดี รวมความเสียหายกว่า 494,200 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลาง ขยายเวลามาให้หลายครั้ง และจะสิ้นสุดสิ้นดือน กันยายน 2566

ทั้งนี้ ล่าสุดมีเงินคงเหลือ 780.26 ล้านบาท แต่คดีไม่ได้จบภายในปีงบประมาณ ยังต้องต่อสู้กันในชั้นศาลจนกว่าจะถึงที่สุด หรือจนกว่าจะถึงศาลฎีกา หากกรมบัญชีกลาง ไม่ขยายระยะเวลาให้อีก อคส. คงไม่มีงบไปต่อสู้คดี ทั้ง ๆ ที่ อคส. ต้องขึ้นศาลทุกสัปดาห์ และหาก อคส. ไม่ไปขึ้นศาล หรือหยุดต่อสู้ คงสร้างความเสียหายให้กับรัฐจำนวนมาก

หากกรมบัญชีกลาง ให้ อคส. คืนงบปี 2562 และปี 2563 ที่เหลือ 780.26 ล้านบาท และให้ใช้งบปี 2567 มาต่อสู้คดีจำนำข้าว ก็เหมือนเป็นการเริ่มนับต้นนับหนึ่งใหม่ และที่สำคัญ กระบวนการของบปี 2567 อาจไม่ทัน อีกทั้งหากให้สำรองจ่ายไปก่อน อคส. ก็ไม่มีเงินสะสมของตนเองที่จะนำมาต่อสู้คดี

เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต
เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต

นายเกรียงศักดิ์กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการต่อสู้คดี ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 15 กันยายน 2566 คดีแพ่งของศาลปกครอง อคส. ชนะ 40 คดี โดยศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาให้คู่สัญญาชดใช้ให้ อคส. รวม 2,309 ล้านบาท และ อคส. แพ้ 30 คดี ศาลพิพากษาให้ อคส. ชดใช้ให้คู่สัญญา 683 ล้านบาท

จากการต่อสู้คดีจำนำข้าว พบว่า มีส่วนต่างให้ อคส. ได้รับการชดใช้มากถึง 1,636 ล้านบาท และถ้าได้รับการชดใช้มา ก็จะเป็นรายได้ของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมา อคส. ได้อุทธรณ์ให้คู่สัญญาต้องจ่ายชดใช้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้มีรายได้คืนมามากขึ้น

ส่วนคดีอาญา 897 คดี อคส. ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อกองปราบปรามแล้ว คดีอยู่ระหว่างดำเนินการของพนักงานสอบสวน 52 คดี, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 440 คดี, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 36 คดี, พนักงานอัยการ 132 คดี และศาล 172 คดี โดยมีคดีถึงที่สุดแล้ว 65 คดี

ขณะเดียวกัน ยังมีข้าวสารในสต๊อกรัฐ ที่อยู่ในความดูแลของ อคส. อีก 36,285 ตัน โดยจำนวนนี้ 21,272 ตัน เป็นข้าวที่โรงสียึดหน่วง ซึ่งอยู่ระหว่างรออัยการสั่งฟ้อง และร้องขอศาลคุ้มครองชั่วคราวให้โรงสีปล่อยข้าวให้กับผู้ชนะประมูล ส่วนอีก 15,013 ตัน ผู้ซื้อไม่มารับมอบข้าว ซึ่ง อคส. จะนำมาเปิดประมูลขายใหม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo