กทม. คุมเข้มเฝ้าระวังป้องกัน พร้อมแก้ไขน้ำท่วมชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยา จากน้ำหลาก น้ำทะเลหนุนสูง ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมกระสอบทราย 3.55 แสนใบ จัดซื้อเพิ่ม 1.2 ล้านใบ
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า จากการที่กรมชลประทานแจ้งเตือน 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำริมฝั่งเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร มีการประสานความร่วมมือกับกรมชลประทาน กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เป็นประจำทุกสัปดาห์
ทั้งนี้ เพื่อวิเคราะห์ ติดตามคาดการณ์สภาพอากาศ ปริมาณฝน ปริมาณน้ำรวมถึงการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำอื่น ๆ ในการเฝ้าระวังเพื่อลดผลกระทบ และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน
สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังตามจุดอ่อน หรือจุดเสี่ยงน้ำท่วม รวมทั้งได้จัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดเหตุกรณีฉุกเฉินสามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขและช่วยเหลือได้ในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ และตรวจสอบความมั่งคงแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระโขนง
ปัจจุบันในกรุงเทพมหานคร มีแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระโขนง ความยาวประมาณ 88 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของกรุงเทพมหานคร ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร แนวป้องกันของเอกชนหรือหน่วยงานราชการอื่น ความยาวประมาณ 3.85 กิโลเมตร และแนวป้องกันชั่วคราว (แนวฟันหลอ) ความยาวประมาณ 4.15 กิโลเมตร
ในส่วนของแนวป้องกันตนเองบางแห่ง ที่มีระดับของแนวคันกั้นน้ำต่ำ และไม่มีความมั่นคงแข็งแรงหรือแนวฟันหลอ ปัจจุบันกำลังจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการเรียงกระสอบทราย เพื่อเสริมความสูงของแนวคันกั้นน้ำกับเสริมความมั่งคงแข็งแรง เพื่อให้สามารถป้องกันน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุนสูงได้อย่างปลอดภัย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนตุลาคม 2566
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบเครื่องสูบน้ำที่ได้ติดตั้งไว้แล้วตามบ่อสูบน้ำต่าง ๆ ตามแนวริมแม่น้ำทุกจุด เพื่อให้มีความพร้อมสามารถใช้งานได้ในทันที
ขณะเดียวกัน ได้จัดเตรียมกระสอบทรายเปล่าที่พร้อมใช้งาน 3.55 แสนใบ และมีแผนการจัดซื้อกระสอบทรายเปล่าในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านใบ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างคาดว่าจะได้กระสอบทรายเปล่าในเดือนตุลาคมรวมกระสอบทรายเปล่าที่คาดว่าจะใช้งานทั้งหมด 1.555 ล้านใบ
สำหรับชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วม ต้องติดตามสถานการณ์น้ำเหนือ เวลาน้ำขึ้นเต็มที่ในแต่ละวันอย่างใกล้ชิด บางชุมชนอาจจะได้รับผลกระทบเรือวิ่งผ่านไปมาด้วยความเร็วอาจจะทำให้เกิดแรงคลื่นกระทบพื้นบ้าน ซึ่งกรุงเทพมหานคร ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกรมเจ้าท่าช่วยตรวจสอบ กำชับและใช้มาตรการเรื่องการเดินเรือเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชนดังกล่าวต่อไป
กทม.ได้เปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ติดริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยารับทราบสถานการณ์ล่วงหน้า และสามารถเตรียมการป้องกันได้อย่างทันท่วงที ผ่านช่องทางเว็บไซต์ http://dds.bangkok.go.th/ ,www.prbangkok.com ,Facebook:@BKK.BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ Twitter:@BKK_BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ รวมถึงรับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร.022485115 แจ้งปัญหาทางระบบทราฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.กทม.) แจ้งว่า สปภ.กทม.ได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัย จัดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย รวมทั้งยานพาหนะ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิดหาบหาม และเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก (ไดโว่) พร้อมให้การสนับสนุนและบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์มวลน้ำเหนือที่จะไหลลงมาจากพื้นที่ตอนบน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร โดยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมขังสามารถขอความช่วยเหลือมาทางโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ เตือน!! กทม.ฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมกระโชกแรง
- แจ้ง 10 จังหวัด-กทม. สองฝั่งเจ้าพระยา เตรียมพร้อมยกสิ่งของขึ้นที่สูง หลังกรมชลฯ ระบายน้ำ ‘เขื่อนเจ้าพระยา’
- กรมชลฯ แจ้งเพิ่มการระบายน้ำ ‘เขื่อนเจ้าพระยา’ ท้ายเขื่อน ชัยนาท-อยุธยา ระดับน้ำเพิ่มสูง 1.5 เมตร
