General

กทม. เร่งสางปัญหานอมินี ต่างชาติตีเนียนทำธุรกิจในไทย

กทม. หารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งสางปัญหานอมินี  ต่างชาติประกอบธุรกิจในไทย โดยเฉพาะย่านเยาวราช ล่าสุดพบที่ห้วยขวาง 4 แห่ง ยันไม่ใช่การจับผิด 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของ กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 8/2566 โดยได้มีการเน้นย้ำให้ทุกเขตไปตรวจสอบเรื่องธุรกิจของชาวต่างชาติ โดยไม่ได้เน้นเพื่อไปจับผิด เพราะธุรกิจเหล่านี้สามารถมองได้อีกมุม คือ การกระตุ้นการท่องเที่ยวจากคนต่างชาติ

ปัญหานอมินี

อย่างไรก็ตาม หากมีการกระทำที่เป็นลักษณะของนอมินี (การถือหุ้นแทนคนต่างชาติหรือการอำพรางชื่อผู้ถือหุ้นที่แท้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย) จะประสานกับกระทรวงพาณิชย์ไป รวมถึงตรวจสอบว่า การนำเข้าของต่างประเทศมาขาย ดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่

สำหรับกรณีที่เขตห้วยขวางมีธุรกิจของคนจีนจำนวนมากในพื้นที่ จากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดอยู่ 4 แห่ง เช่น ขายของโดยไม่มีฉลาก ไม่มีการจดทะเบียนการค้าต่าง ๆ  ส่วนในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งมีพื้นที่เยาวราชก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่เน้นย้ำให้ไปตรวจสอบ

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กทม. และตำรวจ มาพูดคุยกันที่สำนักงานเขตห้วยขวาง เพื่อหารือเกี่ยวกับระบบวิธีการทำงานในพื้นที่เขตห้วยขวาง กรณีมีชาวต่างชาติมาประกอบอาชีพอยู่เยอะ

กทม2

นอกจากนี้ ยังปรากฏเป็นข่าวอยู่ในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในลักษณะล้อเลียนว่า ที่นี่คือเมืองของประเทศนั้นประเทศนี้

จากการหารือได้รับข้อมูลในชั้นต้นว่า ชาวต่างชาติที่มาประกอบกิจการในพื้นที่เขตห้วยขวางทั้งหมดใช้นอมินีแทบทั้งสิ้น เป็นการให้คนไทยถือหุ้นแทนแต่ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง

ในวันนั้น ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ได้ไปประชุมด้วย และได้ให้ข้อมูลว่าในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์มีนอมินี ต่างชาติเยอะมาก

ทั้งนี้ ได้แนะนำให้ผู้อำนวยการเขตอื่นควรศึกษา พ.ร.บ. ของกระทรวงพาณิชย์ มาตรา 42 ที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาขอเปิดประกอบกิจการในรูปแบบกิ๊ฟชอป และความเป็นจริงผู้จดทะเบียนเป็นคนไทย แต่แรงงานอาจไม่ใช่คนไทย

dm

นอกจากนี้ ได้มีการหารือว่าหากเกิดเหตุในพื้นที่ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จากที่คุยกันได้ข้อมูลว่า ในพื้นที่เขตห้วยขวางหรือพื้นที่อื่น ๆ ที่มีเรื่องชาวต่างชาติ จะมีส่วนราชการจำนวนมากที่สามารถเข้าไปดูแลได้ ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็มีบทบาทหน้าที่เฉพาะของตน เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และ กทม.

อีกทั้งในพื้นที่เขตห้วยขวางมีสถานีตำรวจอยู่ 5 สถานี จากการหารือทำให้ทราบว่าผู้อำนวยการเขตต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่ดูแลฝ่ายปกครอง โดยเขตห้วยขวางจะเป็นต้นแบบสำหรับเขตอื่น ๆ ในการทำงานต่อไป โดยที่ผ่านมามีการปิดไปแล้ว 4 ร้านที่ทำผิดเกี่ยวกับเรื่องผิดประเภทของการขออนุญาต

ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำว่า กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามเดินหน้าลุย โดยต้องบูรณาการกับหลายหน่วยงานด้วย

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าเรื่องนี้ทั้งแง่บวกทั้งแง่ลบ ซึ่งในแง่บวก ถ้าทำถูกกฎหมายก็เป็นการกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวให้ชาวต่างชาติรู้สึกอุ่นใจเวลามาอยู่เมืองไทย

แต่ในแง่ลบคือการผิดกฎหมาย ต้องดูว่าของที่เอามาเสียภาษีไหม ไปแย่งอาชีพคนไทยไหม ต้องดูอย่างรอบคอบ ซึ่งพยายามจะตรวจสอบทุกเขต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo