General

ปิดคดียูฟัน! ‘เกย์นที-แม่ข่าย’ 20 ปี ชดใช้เหยื่อ 2,000 ราย กว่า 356 ล้าน 

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เกย์นที-แม่ข่ายยูฟัน” 20 ปี ชดใช้ค่าเสียหายแก่เหยื่อผู้เสียหายกว่า 2,000 ราย กว่า 356 ล้าน 

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา .รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแชร์ลูกโซ่ยูฟันสโตร์ รวม 7 สำนวน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 และผู้เสียหาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า แม่ข่ายยูฟันสโตร์ นายนที ธีระโรจนพงษ์ หรือ เกย์นที นักเคลื่อนไหวความหลากหลายทางเพศกับพวกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 – 43 ความผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ...ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ 2556 ...ขายตรงและการตลาดแบบ ตรง 2545 ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม ...การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 2527 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม ...ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ..2550

ปิดคดี

กรณีเมื่อ 25 ..56 – 18 มิ..58 บริษัท ยูฟันสโตร์ จำกัด ชักชวนบุคคลเข้าร่วมเครือข่ายในการ ประกอบธุรกิจน้ำผลไม้และสมุนไพรกับเครื่องสำอางผิวหน้า ทำให้หลงเชื่อว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย แต่กลับหลอกลวงให้ประชาชนผู้เสียหายร่วมลงทุน

จำเลยให้การปฏิเสธ

คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายอภิชณัฏฐ์ จำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกทำงานเป็นขั้นตอน ชักชวนให้ผู้เสียหายมาร่วมลงทุนการประกอบธุรกิจของบริษัทยูฟันฯไม่ได้เน้นการจำหน่ายสินค้าขายตรงตามที่แจ้งไว้ แต่กลับเชิญชวนให้ลงทุนยูโทเคน อ้างว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยไปอย่างต่อเนื่อง หากผู้ลงทุนหาสมาชิกใหม่เพิ่มได้จะได้รับค่า ทำให้ได้รับความเสียหาย จำเลยจึงมีความผิด พิพากษาว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 1 , 2 , 4 , 6 , 11 , 12 , 13 ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุดจำนวน 2,451 กระทงๆ ละ 5 ปี รวม 12,255 ปี และให้จำคุกอีกคนละ 10 ปี ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 50 ปีและให้จำคุกจำเลยที่ 7 ฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทงๆละ5ปี รวม 12,255 ปี ,ให้จำคุก 10 ปี ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,จำคุกอีก 2 ปี ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมายไว้ 50 ปี พร้อมกับให้ปรับ บริษัท ยูเทรดดิ้ง จำกัด จำเลยที่ 42 ฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทงๆ ละ 500,000 บาท และให้ปรับฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อีก 200,000 บาท รวมปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 1,225,700,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 5 , 15 , 16 , 22 , 23 , 29 , 31 , 36 , 37 , 40 ให้จำคุกฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทงฯ ละ 5 ปี คนละ 12,255 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี

สำหรับจำเลยที่ 17 , 19 , นายนที จำเลยที่ 27 ให้จำคุกฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทงฯ ละ 5 ปี คนละ 12,255 ปี และฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ จำคุกอีกคนละ 2 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี โดยให้จำเลยที่ 1 , 2 , 4 , 5 , 6 , 7 , 11 , 12 , 13 , 15 , 16 , 17 , 19 , 22 , 23 , 27 , 29 , 31 , 36 , 37 , 40 , 42 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 356,211,209 บาท ให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2,451 คน ตามจำนวนที่แต่ละคนถูกฉ้อโกงไป พร้อมให้ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายของเดือนที่ให้กู้ยืม และให้ริบทรัพย์สินที่เป็นเงินสดของกลางด้วย และให้ยกฟ้องจำเลย 21 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 3 , 8 , 9 , 10 , 14 , 18 , 20 , 21 , 24 , 25 , 26 , 28 , 30 , 32 , 33 , 34 , 35 , 38 , 39 , 41 , 43 ซึ่งได้รับการปล่อยตัวหลังศาลพิพากษายกฟ้อง ต่อมาทั้งโจทก์ และจำเลยบางส่วน ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมหารือกันแล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยบางส่วนฟังขึ้น จึงพิพากษา แก้เป็นว่า จำเลยที่ 7 คงมีความผิด จำนวน 2,451 กระทงๆ ละ 5 ปี คนละ 12,255 ปี ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ จำคุกอีก 2 ปี ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) ให้ยกฟ้องฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 , 2 , 6 , 11 ในความผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจำเลย ยังคงมีโทษ ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2)

พร้อมทั้งให้ยกฟ้องจำเลยที่ 15 , 16 , 22 , 23 , 29 , 31 , 36 , 37 , 40 ที่เคยถูกพิพากษาจำคุก ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ...การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ..2527 และฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 17 , 19 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยให้ยกคำขอของจำเลยที่ 15 , 16 , 17 , 19 , 22 , 23 , 29 , 31 , 36 , 37 , 40 ที่ร่วมกันคืนเงินที่ฉ้อโกงแก่ผู้เสียหาย

นอกจากที่ได้พิพากษาแก้แล้ว ส่วนอื่นก็ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และยังคงให้จำเลยที่ 1 , 2 , 4 , 5 , 6 , 7 , 11 , 12 , 13 ซึ่งเป็น กลุ่มแม่ข่ายระดับสูงจำเลยที่ 27 , 42 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 356 , 211 , 209 บาทให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2,451 คน ตามจำนวนที่แต่ละคนถูกฉ้อโกงไป พร้อมให้ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ส่วนจำเลยที่ 1 , 2 , 4 , 7 , 11 – 14 , 27 , 42 ยื่นฎีกา

วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้งชาย หญิง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าฎีกาของจำเลยที่อ้างว่า สคบ.ไม่มีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีและพนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจสอบสวนโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีรับฟังได้เป็นข้อยุติว่า สคบ.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจึงได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าบริษัทยูฟันฯลงทะเบียนว่าเป็นผู้ประกอบการขายตรง แต่ไม่ได้มีสินค้าตามที่ระบุไว้ ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงเป็นความผิดต่อรัฐ ไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหายมาร้องโดยตรงก็ได้ เพราะกฎหมายให้อำนาจกับทาง สคบ.คุ้มครองผู้บริโภค ด้านพนักงานสอบสวนได้เข้ามาสอบสวนและพิสูจน์ได้ว่า บริษัทยูฟันฯ มีส่วนร่วมกับอาชญากรรมข้ามชาติ และการฉ้อโกงประชาชน จนกระทั่งจับกุมผู้กระทำผิดได้ และบริษัทยูฟันฯ ได้รับเงินที่หลอกลวงจากประชาชนไป คำพิพากษาของศาลล่างทั้ง 2 ชอบแล้ว

ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า คงให้จำเลยที่ 1 , 2 , 4 , 5 , 6 , 7 , 11 – 13 ซึ่งเป็นกลุ่มแม่ข่ายระดับสูง นายนที จำเลยที่ 27 , 42 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 356 , 211 , 209 บาทให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2,451 คน ตามจำนวนที่แต่ละคนถูกฉ้อโกงไป โดยให้ชำระดอกเบี้ย ใน 2 อัตรา คือ ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ให้กู้ยืมหรือวันสุดท้ายที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายของเดือนที่ให้กู้ยืมเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เม..2564 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่นับตั้งแต่วันที่ 11 เม..2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้เสียหายทั้งหมด จากเดิมที่ศาลอุทธรณ์ให้ชำระดอกเบี้ยในอัตราเดียวคือร้อยละ 7.5 ปี

นอกจากที่ศาลฎีกาแก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ให้จำคุกจำเลย 1 , 2 , 6 , 7 , 11 คนละ 20 ปี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo