General

สทนช. เผยเอลนีโญเพิ่มกำลัง ‘แล้งหนักปลายปี’ แนะเกษตรกร ‘ปลูกพืชใช้น้ำน้อย’ เพื่อให้น้ำพอใช้ถึงปี 67

สทนช. เผยเอลนีโญเพิ่มกำลัง “แล้งหนักปลายปี” แนะเกษตรกร “ปลูกพืชใช้น้ำน้อย” เพื่อให้น้ำพอใช้ถึงปี 67 หลังจัดสรรน้ำไปแล้ว 51%

นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ภาพรวมแผนจัดสรรน้ำฤดูฝนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร เบื้องต้นจัดสรรน้ำไปแล้ว 2,799 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 51% ของแผนทั้งหมด ถือเป็นปริมาณน้ำจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องส่งเสริมการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรในพื้นที่ให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย เนื่องจากไม่สามารถปลูกข้าวนาปีโดยใช้น้ำฝนเป็นหลักได้จากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ

สทนช.

เอลนีโญเพิ่มกำลังแล้งหนัก แนะเกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย

ขณะนี้พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาพบเพาะปลูกไปแล้ว 5.84 ล้านไร่ หรือ 71% ของแผนการเพาะปลูกช่วงฤดูฝนปีนี้ ซึ่งประเทศไทยจะประสบสภาวะเอลนีโญต่อเนื่องจากเอลนีโญกำลังอ่อนในปัจจุบัน จะกลายเป็นเอลนีโญกำลังปานกลางช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม จึงต้องใช้ฝน ONE MAP มาประเมินสถานการณ์น้ำต้นหน้าแล้ง ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566

คาดว่า จะมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งทั้งประเทศ 46,177 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 65% ของความจุรวม พบเป็นน้ำใช้การเพียง 22,635 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 48% โดยปริมาณน้ำใช้การนี้มีจำนวนน้อยกว่าปริมาณน้ำใช้การ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา หากมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพก็จะมีน้ำเพียงพอ

สทนช.

นายบุญสม กล่าวย้ำว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ จะยังมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก จึงอาจเกิดอุทกภัยได้บางพื้นที่ จึงให้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และการสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนใน 6 พื้นที่ทั่วประเทศ คือ เชียงราย ขอนแก่น เพชรบุรี ยะลา ลพบุรี และปราจีนบุรี.

ขณะเดียวกัน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้เร่งให้แต่ละหน่วยงาน พัฒนาและเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำทุกประเภทช่วงปลายฤดูฝน ครอบคลุมแหล่งน้ำธรรมชาติและทางน้ำธรรมชาติ ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ

พร้อมทั้งวางแผนการใช้น้ำช่วงหน้าแล้งปี 2566/67 โดยให้เกษตรกรงดเพาะปลูกพืชต่อเนื่องแต่เน้นการเพาะปลูกพืชน้ำน้อย เพื่อให้มีน้ำใช้จนถึงปีหน้า

สทนช.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo