General

กทม. เปิด ‘แผนป้องกันน้ำท่วม-น้ำแล้ง’ ปี 66 ถอดบทเรียนปัญหา 737 จุด มั่นใจปีนี้รับมือได้ดีกว่าเดิม

กทม. เปิด “แผนป้องกันน้ำท่วม-น้ำแล้ง” ปี 66 ถอดบทเรียนปัญหา 737 จุด มั่นใจปีนี้รับมือได้ดีกว่าเดิม พร้อมทำฝายเก็บน้ำ 17 แห่ง ช่วยเกษตรกรช่วงแล้ง

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 เพื่อซักซ้อมความพร้อมของทุกสำนักงานเขต

โดยให้ถอดบทเรียนน้ำท่วมปีที่แล้ว 737 จุด (จากน้ำเหนือน้ำหนุน 120 จุด จากน้ำฝน 617 จุด) ปีนี้เตรียมความพร้อมถึงไหน เพื่อให้มั่นใจว่าจุดเสี่ยงน้ำท่วมปีนี้ต้องดีกว่าเดิม

กทม.

ถอดบทเรียนน้ำท่วม 737 จุด รับมือปีนี้

จากการรายงานการแก้ไขปัญหาจากน้ำเหนือน้ำหนุน จำนวน 120 จุด เสร็จทันน้ำเหนือน้ำหนุนนี้ 29 จุด เสร็จไม่ทันน้ำเหนือน้ำหนุนนี้ 41 จุด อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ 31 จุด และอยู่ระหว่างประสานเอกชนและหน่วยงานราชการ 19 จุด ในส่วนของมาตรการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนจากน้ำเหนือน้ำหนุน ได้แก่ เรียงกระสอบทราบ 69 จุด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 จุด สร้างรางระบายน้ำ 1 จุด JET MIX 18 จุด ปรับปรุงบ่อสูบน้ำ 1 จุด ปรับปรุงบ่อสูบน้ำ+JET MIX 1 จุด

การแก้ไขปัญหาจากน้ำฝน จำนวน 617 จุด แก้ไขโดยสำนักการระบายน้ำ 144 จุด เสร็จทันฝนนี้ 61 จุด เสร็จไม่ทันฝนนี้ 40 จุด อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ 43 จุด แก้ไขโดยสำนักงานเขต 473 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง 21 จุด ได้รับงบแล้ว 79 จุด ขอจัดสรรงบประมาณ 69 จุด อยู่ในโครงการของสำนักการระบายน้ำ 68 จุด อยู่ในโครงการของสำนักการโยธา 3 จุด ถนนส่วนบุคคล 24 จุด อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ 209 จุด

ในส่วนของมาตรการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนจากน้ำฝน โดยสำนักการระบายน้ำกับสำนักงานเขต ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 224 จุด ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 165 จุด เรียงกระสอบทราย 97 จุด ขุดลอกคลอง 17 จุด เสริมผิวจราจร 24 จุด

กทม.

ติดตามสถานการณ์จัดเจ้าหน้าที่แก้ไขปัญหา

การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมของสำนักการระบายน้ำและ 6 กลุ่มเขต ประกอบด้วย การควบคุมระดับน้ำในคลอง ขุดลอกคลอง 182 คลอง 203 กิโลเมตร (82%) เปิดทางน้ำไหล 1,404 คลอง 1,518 กิโลเมตร (77%) ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 3,758 กิโลเมตร (73%) ล้างท่อหน้าตลาด (รอบที่ 1) 157 ตลาด (62%) เตรียมความพร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าถาวร 14 จุด รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 17 คัน เครื่องสูบน้ำไฮโดรลิก 46 เครื่อง เครื่องสูบน้ำหางอ่อน 17 เครื่อง อุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง แก้มลิง 32 แห่ง Water Bank 4 แห่ง สถานีสูบน้ำ 188 แห่ง บ่อสูบน้ำ 324 แห่ง เครื่องผลักดันน้ำ 55 เครื่อง หน่วย BEST 35 หน่วย

นอกจากนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาและสถานการณ์ฝนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขสถานการณ์ มีเรดาร์ตรวจวัดสภาพอากาศ 2 แห่ง ที่หนองแขม และหนองจอก มีจุดตรวจวัดน้ำท่วม ดังนี้ จุดตรวจวัดถนน 100 แห่ง จุดตรวจวัดอุโมงค์ทางลอดรถ 8 แห่ง สถานีเครือข่ายตรวจวัดระดับน้ำ 255 แห่ง มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่อเนื่อง ทั้งจังหวัดปริมณฑล (ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ) การไฟฟ้านครหลวง และกรมชลประทาน

กทม.

ข้อสั่งการ 11 หน่วยงานของกทม.

รวมถึงได้มีข้อสั่งการไปยัง 11 หน่วยงานของกทม. ดังนี้

  1. สำนักงบประมาณ ให้สนับสนุนการจัดหากระสอบทรายและสนับสนุนงบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
  2. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้เตรียมการอำนวยความสะดวกประชาชน สนับสนุนเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ จัดหน่วยซับน้ำสนับสนุนพื้นที่ลุ่มต่ำของสำนักงานเขต
  3. สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ให้ออกปฏิบัติงานเมื่อฝนตก ผู้อำนวยการเขตสั่งการแก้ไขปัญหา พร้อมรายงานสถานการณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  4. สำนักงานประชาสัมพันธ์ ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร วิเคราะห์ผลกระทบจากความคิดเห็นของประชาชน นำสื่อมวลชนลงพื้นที่
  5. สำนักการจราจรและขนส่ง ให้ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและสถานการณ์น้ำบนป้ายจราจรอัจฉริยะ สนับสนุนกล้อง CCTV และตรวจสอบความพร้อมของระบบวิทยุ TRUNK RADIO
  6. สำนักอนามัย ให้บริการแนะนำด้านสุขภาพอนามัยและวิธีป้องกันโรคแก่ประชาชน
  7. สำนักการโยธา ให้ตรวจสอบงานก่อสร้างสาธารณูปโภค รถไฟฟ้า อาคารสูง ป้ายโฆษณา จัดหน่วยซ่อมแซมเร่งด่วน (Best Service) พร้อมสนับสนุนเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์
  8. สำนักการคลัง (กองโรงงานช่างกล) ให้บริการช่วยเหลือประชาชนกรณีรถยนต์ขัดข้อง จัดรถยก รถลากจูง อำนวยความสะดวกในการจราจร
  9. สำนักการระบายน้ำ ให้แจ้งจุดเสี่ยง แก้ไขจุดเสี่ยง ระดับน้ำในคลองตามแผน เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ และรายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำ
  10. สำนักเทศกิจ ให้ประสานแจ้งสภาพอากาศให้แก่สำนักงานเขต จัดรถสายตรวจและลงพื้นที่ จัดเตรียมรายชื่อผู้ติดต่อประสานงานพร้อมเบอร์โทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน
  11. สำนักสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการรณรงค์การงดทิ้งขยะลงพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ท่อระบายน้ำ เป็นต้น

นอกจากนี้ได้มีการหารือเรื่องภัยแล้ง ปีนี้คาดการณ์ว่าฝนน้อยลงจากปรากฎการณ์เอลนีโญ เราต้องเตรียมการให้สมดุลกันระหว่างการพร่องน้ำกับการเก็บน้ำ โดยเฉพาะเขตรอบนอกที่มีการเกษตรอยู่ โดยกทม.ได้มีการจัดทำฝายดักน้ำ 17 แห่ง เพื่อชะลอและกักเก็บน้ำสำหรับการทำเกษตรกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo