ผู้ว่าฯ กทม. เข้มตรวจสอบ “มาตรฐานถังดับเพลิง” ที่สั่งซื้อแจกชุมชนร่วม 1 หมื่นถัง แม้จะเป็นถังความดันต่ำก็ตาม เพื่อความปลอดภัย
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่โรงเรียนราชวินิต มัธยม จากเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิด จนเห็นเหตุให้มีนักเรียนเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน โดยกล่าวว่า กทม.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน โดยถังดับเพลิงที่ระเบิดเรียกว่าเป็นถังคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีความดันสูงก็คือ 800-1,200 PSI ขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากถังดับเพลิงเคมีปกติในชุมชนที่มีความดันเพียง 100 PSI
แต่เวลาซ้อมดับเพลิงจะใช้ถังแบบคาร์บอนไดออกไซด์เพราะไม่ฟุ้งกระจายมาก ฉีดแล้วจะระเหยทันที ไม่ใช่เป็นสารเคมีที่ปกติฉีดแล้วเป็นควันขาวฟุ้งกระจายเต็มไปหมด ซึ่งถังดังกล่าวต้องให้พนักงานสืบสวนตรวจสอบสาเหตุการระเบิดอีกที
กทม. เข้มตรวสอบมาตรฐานถังดับเพลิงในชุมชน
ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ และนักเรียนทั้งหมดก็คงต้องมีการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการ รวมถึงต้องมีการเยียวยาทางด้านจิตใจ สำหรับนักเรียนที่ประสบเหตุเนื่องจากเป็นภาพที่น่าตกใจ ซึ่งกทม.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตเข้ามาดูแลด้วย
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 จุดที่ต้องตรวจสอบ คือ 1. มาตรฐานของอุปกรณ์เนื่องจากไม่ควรจะมีการระเบิดขึ้น 2. คือการจัดวางอุปกรณ์ก่อนฝึก ซึ่งจากการตรวจสอบก็เป็นพื้นที่จำกัด ซึ่งในอนาคตต้องให้อยู่ห่างกว่านี้หรือไม่ หรือว่าควรมีอุปกรณ์ มีคอกใส่ป้องกันไว้ให้เป็นระเบียบหรือไม่ ซึ่งกทม.ต้องนำไปทบทวน แต่เท่าที่ทราบมาในประวัติศาสตร์กทม.ไม่เคยระเบิด นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่มีการระเบิดซึ่งต้องไปหาสาเหตุอย่างจริงจัง
ประกอบกับขณะนี้เราก็มีการสั่งซื้อถังดับเพลิงแบบใหม่ ที่จะแจกชุมชนอยู่แล้วประมาณเกือบหมื่นถัง ซึ่งเป็นคนละแบบกับที่ระเบิด เป็นถังพิเศษและมีแรงดันต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้อยู่ในสถานที่ราชการ จึงไม่ต้องตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม กทม.จะเพิ่มความเข้มข้นในการทบทวนตรวจสอบด้านความปลอดภัยของถังดับเพลิงต่อไป
ทบทวนมาตรฐานขั้นตอนซ้อมดับเพลิงทั้งระบบ
ด้านรศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกส่วนหนึ่งที่ต้องมีการทบทวน คือ ขั้นตอนในการวางถังดับเพลิงว่าควรวางตรงไหน ตามหลักวิทยาศาสตร์อาจจะมีแรงดันเพิ่มขึ้นซึ่งอาจจะเกิดจากการตากแดด ซึ่งคงต้องไปตรวจสอบอีกให้ชัดเจนอีกครั้ง รวมถึงการเติมกับบริษัทเอกชนซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เติมเต็มความจุและเติมน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ก็เป็นบทเรียนสำคัญมากที่ต้องไปทบทวนกระบวนการ
นอกจากนี้ก็ต้องทบทวนเรื่องการฝึกอบรมการซ้อมดับเพลิงในโรงเรียน รวมถึงขั้นตอนในการระงับอัคคีภัยของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสถานีดับเพลิงต่างๆ ว่าสารเคมีดังกล่าวที่ใช้มีความเสี่ยงหรือไม่ รวมถึงถังดับเพลิงต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งจะต้องมีการทบทวนอบรมป้องกันความเสี่ยงทั้งกระบวนการ รวมถึงมาตรฐานการดูแลถังดับเพลิงทั้งระบบ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดคลิปนาที ‘ถังดับเพลิง’ วางกลางแดดระเบิด
- เปิดชื่อ ‘นักเรียน’ เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุถังดับเพลิงระเบิด ‘ตรีนุช-ชัชชาติ’ ลงพื้นที่ เร่งเยียวยา
- ผบช.น. เผย ‘ถังดับเพลิง’ ระเบิด เป็นถังใช้ซ้ำ-ไม่มีระบบเซฟตี้วาล์ว