General

ถ่ายโอน รพ.สต. เริ่มสะดุด 30% ผิดหวังค่าตอบแทน กระทบบริการประชาชน

สธ. เผยผลสำรวจ ถ่ายโอน รพ.สต. พบบุคลากร 30% รู้สึกผิดหวังค่าตอบแทน เริ่มพบผลกระทบการให้บริการประชาชน

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษก กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน MIU (คณะอนุกรรมการฯ ด้านวิชาการและติดตามประเมินผล) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นมา HITAP และทีมวิจัย MIU พบว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการถ่ายโอน สอน./ รพ.สต. ให้กับ อบจ. ไปแล้ว 3,263 แห่ง ใน 49 จังหวัด

ถ่ายโอน รพ.สต.

คณะอนุกรรมการฯ จึงได้สำรวจความเห็นของผู้ให้บริการใน สอน./รพ.สต. ที่ถ่ายโอนไปในประเด็นความเพียงพอของกำลังคน ทรัพยากร รวมถึงการสื่อสาร การประสานงาน ความสุขในการทำงาน และความคาดหวังในอนาคต เพื่อให้ทราบจุดแข็ง ปัญหา/อุปสรรค และความต้องการการสนับสนุน เพื่อนำไปพัฒนานโยบายให้มีประสิทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยทำการสำรวจช่วงเดือน ธันวาคม 2565 – มกราคม 2566

จากผลการสำรวจความคิดเห็นบุคลากร ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2565 ประกอบด้วย พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข เจ้าพนักงานสาธารณสุข และอื่น ๆ จำนวน 780 คน ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ พบว่า ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ยังต้องมีการปรับตัวหลังการถ่ายโอนสังกัด และต้องการให้สนับสนุนกำลังคนและทรัพยากรเพิ่มขึ้น

ส่วนประเด็นด้านค่าตอบแทนที่ได้รับหลังการถ่ายโอน พบผู้ให้บริการ 30% เริ่มรู้สึกผิดหวังที่ค่าตอบแทน และการบริหารจัดการของหน่วยงานต้นสังกัดใหม่ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

สำหรับประเด็นด้านการประสานงานกับหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข 33.76% ระบุ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี พบเพียง 35.6% ระบุ สามารถเสนอข้อคิดเห็นหรือตั้งคำถามต่อการตัดสินใจ และพบบุคลากร 44.67% ที่ยังมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน

นอกจากนี้ พบว่ามีผู้ที่ต้องการให้หน่วยงานย้ายกลับไปสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ถึง 28.46% เนื่องจากไม่ชินกับระบบใหม่ มีรายละเอียดการทำงานมากขึ้น และมีแนวโน้มที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ลดลง รวมถึงมีขั้นตอนการจัดสรรและการเบิกจ่ายงบประมาณที่มีความยุ่งยากซับซ้อน

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ

ด้านการสำรวจประชาชนผู้รับบริการ จากการลงพื้นที่ศึกษา พบผลกระทบการให้บริการประชาชน เช่น

  • ต้องให้ผู้ป่วยเดินทางไปทำแผลที่โรงพยาบาลชุมชน จากเดิมรับบริการได้ที่ รพ.สต.
  • มีปัญหาการให้บริการด้านทันตกรรม ซึ่งเกิดจากการขาดบุคลากร
  • ขาดการลงพื้นที่ชุมชนเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

ขณะเดียวกัน พบว่าการบริการในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่ยังดำเนินการได้ เป็นเพราะหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขระดับพื้นที่ให้การสนับสนุนภารกิจที่มีการถ่ายโอนไปแล้วแก่ รพ.สต.

อย่างไรก็ตาม อบจ. และ รพ.สต. ที่รับการถ่ายโอนต้องเร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการ จัดทำแผน จัดหาทรัพยากรเพิ่มเติม โดยเฉพาะกำลังคน รวมถึงกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งแนวดิ่งและแนวระนาบ

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ มีกำหนดเวลาเก็บข้อมูลถึงต้นเดือนมกราคม 2566 ผลสรุปการวิเคราะห์จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจในอนาคต

ดังนั้น จะมีการวิเคราะห์เชิงลึกเมื่อได้ตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น เปรียบเทียบความเห็นตามลักษณะงานและสภาพการจ้างงาน รวมทั้งจำแนกผลการสำรวจตามเขตพื้นที่ เป็นต้น และจะใช้ประกอบกับข้อมูลประเมินผลการกระจายอำนาจอื่นๆ

การศึกษาทั้งหมดนี้ เพื่อให้เกิดข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การบริหารจัดการ ให้เกิดการถ่ายโอนอำนาจด้านการจัดบริการสาธารณสุขที่ดีต่อไปในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo