COVID-19

สธ.ปรับแนวทางรักษา ‘โควิด’ ให้ ‘LAAB’ ในผู้ป่วยเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือด และถุงลมโป่งพอง เริ่มวันนี้

สธ.ปรับแนวทางรักษา ‘โควิด’ ให้ ‘LAAB’ เพิ่มในผู้ป่วยเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือด และถุงลมโป่งพอง เริ่ม 30 พ.ย.นี้

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการปรับแนวทางการรักษาโควิด 19 ฉบับที่ 26 ที่ใช้ในกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ว่า แนวทางการรักษาโควิดมีการปรับเพื่อให้นทันสมัยและเหตุการณ์

โดยจะมีผลการใช้ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งรายละเอียด ปรับเรื่องการจ่ายยาต้านไวรัส และเพิ่มการใช้ Long Acting Antibody (LAAB) ให้มากขึ้น

โควิด

เน้นในการรักษาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคู่กับการให้ยาต้านไวรัสอื่น ที่ยังคงใช้อยู่เช่นเดิม โดยฟาวิพิราเวียร์ ใช้ในกลุ่มเด็ก โมลนูพิราเวียร์ ใช้กับผู้ป่วยติดเชื้ออาการไม่มาก ไม่มีปอดบวม แต่หากมีอาการรุนแรงปอดอักเสบ ระดับออกซิเจนต่ำ เป็นผู้ป่วยนอก จะพิจารณาจ่ายยา แพกซ์โลวิด

หรือหากเป็นผู้ป่วยใน และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 หรือเป็นกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนโค วิดไม่ถึง 3 เข็ม พิจารณาจ่ายยาเรมเดซิเวียร์ ที่เป็นยาฉีด

โควิด

ให้ LAAB เพิ่มในผู้ป่วยเบาหวาน หัวใจ หลอดเลือด และถุงลมโป่งพอง

สำหรับการพิจารณาแนวทางการรักษา ที่แตกต่างจากเดิม คือ คนกลุ่มเสี่ยง ที่เดิมจะให้ LAAB เฉพาะผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ หรือฟอกไต ระยะ 3 ป่วยมะเร็ง ยังได้เพิ่มกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน หัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงคนที่มีภาวะถุงลมโป่งพอง ให้ได้รับ LAAB ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์การติดเชื้อในขณะนี้ พบว่าแม้กราฟจะเริ่มสูงขึ้น พบผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น แต่อัตราการครองเตียงโค วิด จาก 7,564 เตียง มีการใช้แค่ 1,468 เตียง หรือคิดเป็น 19.4% แต่หากมองเป็นเตียงระดับ 2 และ3 ที่ใช้สำหรับผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ก็ใช้ไปแค่ 35% ซึ่งถือว่ายังไม่มาก คาดว่าแม้ในช่วงหยุดยาวในเดือนธันวาคม อัตราการใช้เตียงก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นถึง 50%

โควิด

ควรรับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม

นพ.ธงชัย กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลของผู้ป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิต พบว่า 70% เป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้เคยได้รับวัคซีนเลย หรือได้รับแค่ 1 เข็ม, 2 เข็ม และสูงสุดก็แค่ 3 เข็ม และยังมีโรคประจำตัว เป็นผู้สูงอายุ

ดังนั้น แนวทางการป้องกันโค วิดจากนี้ ต้องเพิ่มการรับวัคซีนให้ได้อย่างน้อยคนละ 4 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยอาจไม่ต้องนับว่าเคยติดเชื้อมากแล้ว เพราะหากเกิน 3 เดือนภูมิคุ้นกัน ทั้งวัคซีน และการติดเชื้อ ก็ทำให้ภูมิที่เคยมีลดลง ส่วนอาการคนติดรอบ 2 พบไม่รุนแรง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการรับวัคซีน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo