สธ.แจงสถานการณ์ “โอไมครอน” ในประเทศไทยเป็นขาขึ้น ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 70% ยอดเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า พร้อมคงเตือนภัยระดับ 4 ทั่วประเทศ
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ว่า ขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้การระบาดค่อนข้างเร็ว จำนวนผู้ติดเชื้อมากแต่เสียชีวิตลดน้อยลง วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.8 ล้านคน เสียชีวิต 10,559 คน ในสัปดาห์เดียวทั่วโลกติดเชื้อ 11.8 ล้านคน เสียชีวิต 64,682 คน โดยการเสียชีวิตยังคงเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และไม่ได้ฉีดวัคซีน
โอไมครอนขาขึ้น!
สำหรับสถานการณ์ต่อจากนี้ ในประเทศไทยจะเป็นขาขึ้นของโอไมครอน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 70% จึงต้องให้ความสำคัญกับผู้ป่วยอาการหนัก ปอดอักเสบ และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ รวมถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า แต่พบว่าในประเทศไทยผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ไม่มีอาการ และอาจไม่ได้รับการตรวจทั้งหมด จึงขอให้รีบเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พร้อมกับคงระดับเตือนภัยระดับ 4 ทั่วประเทศ งดเข้าสถานที่เสี่ยงทั้งหมด หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่โดยเฉพาะการเดินทางที่ต้องใช้บริการขนส่งสาธารณ
นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า การระบาดระลอกโอไมครอน จะมีผู้ติดเชื้อสูงกว่าการระบาดระลอกเดลต้า (อินเดีย) ในปี 2564 แต่เมื่อเปรียบเทียบการเสียชีวิต พบว่าระลอกเดลต้าช่วงที่มีการติดเชื้อสูงสุด เสียชีวิต 1,823 คน ขณะที่ในสัปดาห์ที่ 6 ของปี 2565 เสียชีวิต 188 คน ห่างกันถึง 10 เท่า ทำให้ค่อนข้างสบายใจได้ว่าการติดเชื้อทำให้อาการป่วยรุนแรงไม่มาก แต่ถ้าผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10 เท่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะมากขึ้น 5-10 เท่าได้
ผู้ป่วยวิกฤติไม่ถึง 20%
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักช่วงสูงสุดของระลอกเดลต้า ผู้ป่วยปอดอักเสบ 5,615 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,172 เสียชีวิต 301 คน ระลอกโอมิครอน ปอดอักเสบ 900 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 200 คน ทางด้านสถานการณ์ครองเตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยวิกฤติไม่ถึง 20% ขณะที่ผู้ป่วยอาการน้อย ครองเตียงมากถึง 55.7%
นพ.จักรรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีคนสอบถามเข้ามามากว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดจะเป็นอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าคาดการณ์ค่อนข้างยาก แต่จากกราฟสถานการณ์จริง จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พุ่งขึ้นค่อนข้างเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากหลังตรุษจีน มีการผ่อนคลายมาตรการค่อนข้างมาก หลายจังหวัด สายตื๊ด ดื่มสุรา ยืนเต้นในสถานที่ปิดทึบ ไม่มีการระบายอากาศที่ดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สถานประกอบการอย่างเดียว แต่อยู่ที่ผู้ใช้บริการด้วย ขอให้งดเข้าสถานที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพื่อน และครอบครัว อย่านำตัวเข้าไปเพิ่มความเสี่ยง ระลอกโอมิครอน มีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการจำนวนมาก บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อ
ผู้สูงอายุฉีดบูสเตอร์โดสด่วน!
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบที่เพิ่มชัดเจน คือ สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มอีกหากไม่มีมาตรการป้องกันร่วมกับการฉีดวัคซีน ซึ่งในรอบการระบาดของโอไมครอน มีผู้สูงอายุที่ไม่ฉีดวัคซีน อัตราการเสียชีวิต 178 ราย ต่อ 1 ล้านประชากร แต่หากผู้สูงอายุฉีดบูสเตอร์โดส จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลง 41 เท่า ฉีด 2 เข็ม ลดอัตราการเสียชีวิต 6 เท่า
“เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจำเป็นมากในผู้สูงอายุในการควบคุมโรค และไม่ทำให้ผู้เสียชีวิตในไทยลดลง ต้องค้นหาผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ฉีด 2.2 ล้านคน จากทั้งหมดประมาณ 12.7 ล้านคน แม้ว่าจะครอบคลุมแล้ว 82.8% ซึ่งสูงมาก แต่ยังต้องการให้สูงขึ้นอีก” นพ.โสภณ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หัวหน้าศูนย์จีโนมฯ’ คาด ‘โอไมครอน’ จบมีนาคม แล้วเปลี่ยนสายพันธุ์!!
- เช็คอาการติดโควิด ‘โอไมครอน’ ล่าสุด! แพทย์เตือนมีอาการแบบนี้ตรวจ ATK ทันที
- โควิดวันนี้ 24 ก.พ. ทั่วโลกติดเชื้อ 430.11 ล้านคน ‘ลาว’ เพิ่งเจอรายแรก ติด ‘โอไมครอน’ ในท้องถิ่น