COVID-19

ยอดโควิดทะลุ 1.3 หมื่นราย ‘หมอนิธิพัฒน์’ ชี้กระทบแผนลดเป็นโรคประจำถิ่น

“หมอนิธิพัฒน์” แนะทำใจดีสู้เสือ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งแตะ 1.3 หมื่นราย รอดูยอดผู้ป่วยหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 7 วัน คาดกระทบเป้าหมายลดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ต้องลากยาวออกไป

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ถึงสถานการณ์โควิด-19 ของไทยที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้น อาจกระทบแผนการลดเป็นโรคประจำถิ่น โดยส่วนหนึ่งระบุว่า

LINE ALBUM รวมหมอโควิด ๒๒๐๒๐๓

พุ่งทะลุไปที่หมื่นสามเป็นวันแรกแล้ว ดูในหน้ารายงานจังหวัด ส่วนใหญ่ตัวเลขเป็นสีแดง ที่หมายถึงยอดเพิ่มจากวันก่อน แต่จำนวนผู้ป่วยหนักและใส่เครื่องช่วยหายใจยังไม่เพิ่ม ต้องรออีกสักเจ็ดวันจึงจะรู้ผล

แต่ขอทำใจดีสู้เสือไว้ก่อนว่า สถานการณ์จะยังไม่ลุกลาม แต่เป้าหมายที่จะลดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นคงต้องยืดออกไปอีกถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงไปอีก

นอกจากนี้ รศ.นพ.นิธิพัฒน์  ยังโพสต์ในตอนท้าย ถึงทีมชบาแก้ว ที่ผู้เล่นและโค้ชติดเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศอินเดีย โดยระบุว่า

มันแสนเจ็บใจที่ทีมชบาแก้วนักบอลทีมชาติหญิงไทย ที่มีโอกาสสูงในการตกรอบคัดเลือกบอลโลก หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายมาสองสมัยติดกันแล้ว

ใครจะเชื่อว่าสาเหตุมาจากโรคโควิด-19 เพราะผู้เล่นเราติดเชื้อไป 9 จากทั้งหมด 23 คน แถมโค้ชเราจากแดนซามูไรก็ติดไปด้วย นัดเจอญี่ปุ่นและเวียดนามจึงฟอร์มรูดลงไป

หมอนิธิพัฒน์

ทีมเราตรวจโควิดก่อนออกเดินทางวันที่ 16 มกราคม คงน่าจะเป็นลบหมด ถึงอินเดียวันที่ 17 แข่งรอบแรกวันที่ 21, 24, 27 ผลออกมาไม่ดีนัก ไม่รู้เริ่มป่วยกันหรือยัง

พอวันที่ 29 ออกข่าวครั้งแรกว่าเริ่มมีการติดจากผลการตรวจของวันที่ 28 เป็นเหตุทำให้เกิดการเดี้ยงในนัดสำคัญสองนัดถัดมา และคงลามไปนัดสุดท้ายที่เหลือด้วย

ที่ยังคาใจคือไปติดมาได้อย่างไร ระบบควบคุมโรคของอินเดียเจ้าภาพไม่ดี หรือมีการรั่วไหลในทีมงานของเราเองตั้งแต่ก่อนออกเดินทางหรือเมื่อเดินทางไปถึงแล้ว ควรที่จะมีการสอบสวนให้ชัดเจนเพื่อวางแผนป้องกันต่อไปในอนาคต

ขอแสดงความเสียใจกับผู้เล่น ที่มุ่งมั่นจะทำเพื่อรอยยิ้มคนไทยแต่ไม่สำเร็จ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo