COVID-19

มั่นใจเปิด “เรียนออนไซต์” โรงเรียนทะยอยเปิดแล้ว

3 กระทรวง มั่นใจเปิด “เรียนออนไซต์” เริ่มทะยอยเปิดเรียน ครู นักเรียน ฉีดวัคซีนแล้ว 80% ส่วนเด็ก 5-11 ปี ลงชื่อฉีดวัคซีนแล้ว 61%

วานนี้ ได้มีเวทีเสวนา “ร่วมใจ 3 กระทรวง มั่นใจเปิดเรียน On Site พร้อมใช้แผนเผชิญเหตุ ทุกสถานการณ์” โดยมีผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมเสวนา

เรียนออนไซต์

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการศึกษา มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกมิติ เพื่อจัดการศึกษาให้กับเยาวชน และมีความเป็นห่วงนักเรียนนักศึกษา โดยพยายามหาแนวทาง มาตรการ การดำเนินการเพื่อให้เด็กนักเรียนไม่ขาดกระบวนการเรียนรู้

ทั้งการอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน โดยเฉพาะอายุ 12-17 ปี 11 เดือน 29 วัน และ 5-11 ปี 11 เดือน 29 วัน เพื่อให้สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดแก่เด็กนักเรียน

เรียนออนไซต์
นางสาวตรีนุช เทียนทอง

ขณะนี้ ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 99% และเข็ม 2 กว่า 80% เช่นเดียวกับนักเรียนในกลุ่มอายุ 12-17 ปี 11 เดือน 29 วันที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็ม 2 ไปแล้วกว่า 80%

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า แม้จะมีการแพร่ระบาดโอมิครอน แต่การเรียนรู้ของเด็กต้องไม่หยุดนิ่ง ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น 6 มาตรการหลัก (DMHC-RC) 6 มาตรการเสริม (SSE-CQ) 7 มาตรการเข้มงวด และการจัดทำแผนเผชิญเหตุ

“โรงเรียนจะเปิดเรียนออนไซต์ได้ ต้องผ่านมาตรการและควบคุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ขอให้ผู้ปกครองตลอดจนประชาชนเชื่อมั่น เพราะทุกโรงเรียนได้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด”นางสาวตรีนุช กล่าว

เรียนออนไซต์
นายสุภัทร จำปาทอง

โรงเรียนทะยอยเปิดแล้ว

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้มีเด็กในระบบการศึกษากว่า 9.7 ล้านคน จากทุกหน่วยงานที่จัดการศึกษา ซึ่งมีโรงเรียนทยอยเปิดเรียนจำนวนมาก ศธ.ได้ทำการสำรวจข้อมูลการเปิดเรียนจาก 77 จังหวัด มีการส่งข้อมูลมาแล้ว 40 จังหวัด เปิดเรียนแล้ว 79.32 % ในจำนวนดังกล่าวมี 2 จังหวัดที่มีการเปิดเรียนน้อยกว่า 30 % จังหวัดภูเก็ต 21.66 % จังหวัดระยอง 29.27 %ส่วนที่เหลืออีก 37 จังหวัด ขณะนี้ยังไม่ส่งข้อมูลมา แต่คาดว่ามีจำนวนใกล้เคียงกัน

สำหรับการสำรวจจำนวนที่ประสงค์ให้เด็ก ช่วงอายุ 5-11 ปี 11 เดือน 29 วัน ฉีดวัคซีนนั้น จากจำนวนนักเรียนทั้งในและนอกสังกัด ศธ. ทั้งประเทศจำนวน 5,381,431 คน จากการสำรวจข้อมูลล่าสุด มีจังหวัดส่งข้อมูลมาแล้ว 61 จังหวัด ทำการสำรวจเด็ก 4,185,000 คน คิดเป็น 78 % ประสงค์ฉีดวัคซีน 2,570,000 คน คิดเป็น 61 % โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้ปกครองจะแสดงความประสงค์ให้นักเรียนฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า 2 ปีกว่าช่วงที่โควิด 19 กระบาด เรามีการจัดรูปแบบการเรียนการสอน 5 รูปแบบ ได้แก่ On Site, On Air, Online, On Demand, และ On Hand โดยรูปแบบที่ดีที่สุดคือแบบ On Site และได้พยายามผลักดันให้เปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล

ดังนั้น แนวทางในการเปิดเรียน สพฐ.จำแนกโรงเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่1 คือกลุ่มที่ยังไม่เคยเปิดเรียนมาเลยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่เปิด On Site อยู่แล้วก่อนปีใหม่ และจะมาปิดหลังปีใหม่นี้

IMG 0624
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

สำหรับโรงเรียนที่ยังไม่เคยเปิดเรียนแต่ทำการประเมินโรงเรียน 44 ข้อผ่านแล้ว ให้ส่งเรื่องมายังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อนำเรื่องเข้าสู่ ศบค.จังหวัด ให้ทำการอนุมัติ

ครู – นักเรียน ฉีดวัคซีนแล้ว 80%

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถเปิดเรียนได้ คือความกังวลของผู้ปกครองและผู้บริหารจังหวัด ว่าจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงขอชี้แจงว่าประเทศไทยผ่านสถานการณ์แพร่ระบาดใหญ่มาแล้ว การฉีดวัคซีน การรักษา รวมถึงการปรับตัวดีขึ้นมาก เพราะขณะนี้โควิด 19 กำลังใกล้จะเข้าสู่โรคประจำถิ่น ที่คนสามารถอยู่ร่วมกันได้ มีอาการติดเชื้อไม่รุนแรง

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนในเด็กนับเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม สั่งซื้อไป 10 ล้านโดส ผู้ผลิตแจ้งจะส่งมอบจะจัดส่งให้ประเทศไทยสัปดาห์ละ 3 แสนโดส สธ.จัดสรรวัคซีนเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนผ่านสถานศึกษา ฉีดวัคซีนวัคซีนให้นักเรียนชั้น ป.6 ที่อายุต่ำกว่า 12 ปีก่อนจากนั้นฉีดวัคซีนให้ชั้นอื่น ๆ จนถึงชั้น ป.1

ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนแวค ซึ่งคงเหลืออยู่ 4 ล้านโดส สำหรับฉีดในเด็กอายุ 3-17 ปี เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้ารับวัคซีนต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo