กรมทางหลวงเซ็น 10 สัญญา ก่อสร้างมอเตอร์เวย์สาย 82 ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว เตรียมเปิดให้บริการภายในปี 2568 พร้อมเสนอครม.เคาะประมูล PPP ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางไร้ไม้กั้นปีนี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานลงนามสัญญาก่อสร้างและลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว ตอน 1 – 10 ระยะทางรวม 16.4 กม. วงเงินก่อสร้าง 18,759 ล้านบาท มีผู้รับจ้างดำเนินโครงการจำนวน 10 สัญญา คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2568
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางหลักเชื่อมสู่ภาคใต้ของประเทศ มีปัญหาจราจรติดขัดจนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว โดยให้กรมทางหลวง (ทล.) ใช้เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางมาดำเนินการในส่วนของงานโยธา
กระทรวงคมนาคม จึงได้สั่งการให้ ทล. เร่งดำเนินการหาผู้รับจ้างก่อสร้าง โดยการแก้ปัญหาจะต้องดำเนินการบนถนนพระราม 2 ตลอดแนวเส้นทาง และเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายทางพิเศษ (การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) ทางหลวงพิเศษ และทางหลวงแผ่นดิน (กรมทางหลวง) รวมระยะทาง 90.8 กิโลเมตร ประกอบด้วย
1. โครงการทางพิเศษ สายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร
2. โครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี – ปากท่อ ช่วงบางขุนเทียน – เอกชัย ระยะทางรวม 8.3 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ขณะนี้การก่อสร้างมีความก้าวหน้าแล้ว 57%
3. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร เป็นโครงการที่มีพิธีการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธา วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565)
4. โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ช่วงบ้านแพ้ว – ปากท่อ ระยะทาง 47.4 กิโลเมตร สิ้นสุดที่แยกวังมะนาว อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นโครงการที่มีแผนก่อสร้างในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2570) โดยกระทรวงคมนาคม คาดว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการคมนาคมขนส่งจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ และช่วยแก้ปัญหาการจราจรบนถนนพระราม 2
สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว มีระยะทางรวม 16.4 กม. วงเงินก่อสร้าง 18,759 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 1,080 วัน มีแผนเปิดให้บริการในปี 2568 โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 10 ตอน ดังนี้
– ตอน 1 ระยะทาง 2.17 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด มูลค่างาน 1,757 ล้านบาท
– ตอน 2 ระยะทาง 2.19 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า กรุงธน-ไทย มูลค่างาน 1,861 ล้านบาท
– ตอน 3 ระยะทาง 1.06 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า วีเอ็น มูลค่างาน 1,910 ล้านบาท
– ตอน 4 ระยะทาง 1.26 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด มูลค่างาน 1,876 ล้านบาท
– ตอน 5 ระยะทาง 1.66 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง บริษัท บางแสนมหานคร จำกัด มูลค่างาน 1,903 ล้านบาท
– ตอน 6 ระยะทาง 1.10 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอเอสไอ มูลค่างาน 1,865 ล้านบาท
– ตอน 7 ระยะทาง 1.43 กิโลเมตร พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน มูลค่างาน 1,868 ล้านบาท ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
– ตอน 8 ระยะทาง 2.15 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า ซีซีเอสพี-เดอะซีอีซี มูลค่างาน 1,910 ล้านบาท
– ตอน 9 ระยะทาง 2.14 กิโลเมตร ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า ซีเอ็มซี-ทีบีทีซี มูลค่างาน 1,859 ล้านบาท
– ตอน 10 ระยะทาง 1.13 กม. ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอส.เค. มูลค่างาน 1,946 ล้านบาท
สำหรับรูปแบบโครงการเป็นทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ขนาด 6 ช่องจราจรไป – กลับ ตลอดเส้นทาง โดยมีสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน บริเวณ กม. ที่ 31 พร้อมด้วยด่านเก็บค่าผ่านทางและทางขึ้น – ลง จำนวน 4 แห่ง ซึ่ง ทล. จะบริหารจัดการอย่างรัดกุมระหว่างการก่อสร้าง เพื่อลดปัญหาการกีดขวางของการจราจรและอุบัติเหตุ ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ส่วนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) รวมทั้งการเก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นโดยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ด้วยระบบ M-Flow ทล. อยู่ระหว่างเตรียมเสนอรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Purchasing Private Partnership: PPP) ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอครม. เห็นชอบต่อไป
คาดว่าจะสามารถประมูล PPP ได้ภายในปี 2565 และดำเนินการติดตั้งระบบในปี 2566 – ปลายปี 2567 จากนั้นจึงเปิดให้ประชาชนวิ่งฟรีทดสอบระบบ และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 2568 เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เสริมศักยภาพระบบการขนส่งทางถนนพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้ก้าวต่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่สำคัญจะมีส่วนช่วยแบ่งเบาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ศักดิ์สยาม’ เปิดแผนปี 65 ทุ่มงบกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ‘สร้างงาน-ยกระดับคุณภาพชีวิต’
- ทุ่มงบไม่อั้น! ‘ศักดิ์สยาม’ กางแผนลงทุนปีหน้า 36 โครงการกว่า 1.9 ล้านล้านทั่วไทย
- แลนด์มาร์กแห่งใหม่!! ‘ศักดิ์สยาม’ เปิด ‘สะพานพระราชวังจันทน์’ มั่นใจสร้างรายได้ชุมชน