“ดร.สันต์” บันทึกที่สุด 10 ประการของโควิดแห่งปี 2564 ที่มีทั้งความมืดมิด แสงสว่างและความหวัง ยกบุคลากรสาธารณสุขไทย ที่หนึ่งของโลก
ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค บริษัท กรีนเนอร์ยี่ไทยแลนด์ จำกัด โพสต์เฟซบุ๊ก Sunt Srianthumrong เรื่อง โควิด-19 ที่สุด 10 ประการแห่งปี 2564 ที่ควรค่าแก่การบันทึก ด้วยความ โกรธ ผิดหวัง เสียใจ ภูมิใจ และเต็มไปด้วยความหวัง โดยระบุว่า
Covid-19 ที่สุด 10 ประการแห่งปี 2564 ที่ควรค่าแก่การบันทึก ด้วยความ โกรธ ผิดหวัง เสียใจ ภูมิใจ และเต็มไปด้วยความหวัง
The Darkness ความมืด
1. ยุตินโยบาย Zero Covid แล้วมาเต้นรำกับไวรัสที่สะดุดขาตัวเอง
สิ่งที่เสียไป จากประเทศหลักพันเป็นหลักล้าน คนตายต่ำร้อยเป็น 21,698 ทั้ง ๆ ที่มีวัคซีนช่วย
สิ่งที่ได้มา เศรษฐกิจดีกว่าปีที่แล้วแค่ 1.2% แลกมาคุ้มไหมครับ
บางทีผมก็คิดนะว่า 2 หมื่นกว่าชีวิตนั้น แทบจะตายเปล่า ประเทศชาติไม่ได้อะไรเลย นอกจากได้รู้ว่า พวกเราช่างโง่เขลากันเสียเหลือเกิน
2. ขบวนการแรงงานเถื่อน บ่อน สถานบันเทิงสายมืด ยังคงมีอำนาจเหนือรัฐบาลเสมอ ไม่ว่าประเทศจะวิกฤตอย่างไร พวกเขาจะไม่มีวันหยุดทำมาหากินในแบบของเขา และอำนาจกฎหมายของรัฐไทย ก็ไม่เคยจะมีวันเอื้อมไปแตะต้องตัวจริง ของพวกเขาได้
3. กองทัพผสม Alpha + Delta ถล่มประเทศไทย 2 เวฟติดกันตั้งแต่เมษายน ยันตุลาคม ยาวนานรวม 6 เดือน แทบไม่ได้หายใจ จะมีช่วงเวลาไหนอีกหรือ ที่คนไทยจะเป็นทุกข์เท่าช่วงนี้
4. The Lost Generation เด็ก ๆ แทบไม่ได้ไปโรงเรียนเลยเกือบ 2 ปีแล้ว สาเหตุหลักก็เพราะ ผู้ใหญ่อยากจะค้าแรงงานเถื่อน กินเหล้า เล่นพนัน เสพกามา และปั้นตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ปั้นไม่ขึ้น
5. Drama Sinovac คนไทยทะเลาะกันมา 10 กว่าปี ลามมาถึงสงครามวัคซีน เชื้อตาย vs mRNA กองเชียร์จีน vs อเมริกา ข่าวลวง Fake News Propaganda มีท่วม Social เวลา 2 ปีในความทุกข์ยากร่วมกันนั้น ไม่ได้ทำให้คนไทยรักกันมากขึ้นแต่อย่างใด
6. คืนแห่งเสียงรถหวอ ช่วงกลางจุดพีคของ Delta ค่ำคืนในเขตกรุงเทพฯ ระงมไปด้วยเสียงของรถพยาบาลที่วิ่งวุ่นไปทั่ว และยังมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือจำนวนมากที่ไม่มีใครได้ยิน และเสียงลมหายใจที่สิ้นสุดลงอย่างเดียวดายโดยไม่มีใครรับรู้
The Light แสงสว่าง
7. 1 ปี 3 เวฟ ไม่มีความปราณีใด ๆ แต่คนไทยร่วมใจกันสู้เอาชนะมาได้ทั้งหมด แม้จะล้มลุกคลุกคลาน ช่วยกันไป ด่ากันไป ทะเลาะกันไป ก็เอาตัวรอดกันมาได้ และเราก็ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ต่อสู้กับ Covid ได้สมศักดิ์ศรีที่สุดในโลก
8. บุคลากรสาธารณสุขไทย คือที่หนึ่งของโลก ในกลุ่มประเทศที่ติดเชื้อ 2 ล้านขึ้นไป เราอยู่ในกลุ่มที่เสียชีวิตน้อยที่สุด ต่ำกว่า 1% เป็นรองแค่ Netherland นิดเดียว ซึ่งเขาร่ำรวยกว่าเรามาก
ถ้าคุณมองไปข้างบนจะพบเปรูที่ติดเชื้อเท่าๆกับเราแต่ตายไป 2 แสนกว่าคน ถ้าคุณมองเพื่อนบ้านใกล้ ๆ มาเลเชีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ล้วนตายมากกว่าเรา
คนไทยต้องขอบคุณแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข และอาสาสมัครต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีพวกเขา เราจะตายกันมากกว่านี้อีกเยอะ และถ้าอยากจะช่วยเขา ไม่ต้องทำอะไรมาก ไปฉีดวัคซีนครับ จะได้ไม่ป่วยหนักให้เป็นภาระพวกเขา
9. น้ำใจคนไทย ผมคิดว่าเรามีอาสาสมัครเกิดขึ้นจำนวนมาก ภาครัฐ เอกชน ประชาชน ระดมกันได้เร็วมาก เปิดศูนย์พักคอย ร.พ.สนามต่างๆได้เร็วแบบที่ผมไม่สามารถเห็นได้ในต่างประเทศเลย ผมถือว่านี่คือเอกลักษณ์ของคนไทย และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผมรักประเทศนี้มาก และไม่เคยหมดรักเลย
10. การมาถึงของ Super Virus “Omicron” เราไม่มีเงินเหลือจะปิดเมืองอีกแล้ว มีแต่ต้องเดินหน้าสู้มันไป ยังไงก็เหนื่อยแน่นอน
แต่จากช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีความหวังว่า Omicron อาจจะเป็นทั้ง เชื้อร้ายและการเยียวยา มีความเป็นไปได้สูงว่า นี่จะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย 3 ปี 5 Wave และจบบริบูรณ์ สู้ครับ อย่าเพิ่งท้อ อย่ายอมแพ้
ส่งท้ายปีเก่า
ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ วันนี้ยังได้หายใจอยู่ วันนี้คนที่คุณรักยังพร้อมหน้า วันนี้งานการยังมีทำ วันนี้บ้านช่องยังมีที่ซุกหัว วันนี้กิจการยังเปิดได้ และต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับทุกๆคนที่ต้องสูญเสีย ในทุกรูปแบบ เราผ่านปีที่หนักมากๆมาร่วมกัน
ผมเชื่อว่าปีหน้าก็จะหนักมากๆแน่นอน แต่พวกเราทุกคนที่เหลืออยู่แข็งแกร่งขึ้นมาก และจะผ่านมันไปได้อย่างเข้มแข็ง ผมมั่นใจครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไทยมีเวลาเหลือเท่าไร ‘ดร.สันต์’ เตือนปีใหม่การ์ดตก โอไมครอนระบาดหนักกลางม.ค.
- โอไมครอนบุก!! ดร.สันต์ คาดเลวร้ายสุด 3 สัปดาห์ โควิดระลอก 5 ติดเชื้อทะลุหมื่น
- ‘ดร.สันต์’ บอก 10 ข่าวดีหลังเปิดประเทศ ช่วยกันสกัดโอไมครอน ลุ้นฉลองปีใหม่พร้อมกัน