สธ. กำชับ 7 จังหวัดอัตราครองเตียงสูง ให้เตรียมเตียงเพิ่ม พร้อมรับมือโอไมครอน มั่นใจไม่เกิดสถานการณ์เตียงขาด หากระบาดพร้อมเปิด รพ.สนาม ฮอสพิเทล
นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 194,883 เตียง อัตราครองเตียง 28.8% เฉพาะเตียงสีแดงสำหรับผู้ป่วยหนัก 5,708 เตียง ครองเตียง 45.2% และเตียงสีเหลือง 73,427 เตียง ครองเตียง 44.5% ภาพรวมถือว่ายังมีเพียงพอ
ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดไม่รวม กทม. มีโรงพยาบาล 388 แห่ง 63,348 เตียง ครองเตียง 9.8% ,ศูนย์พักคอย (Community Isolation : CI) 134 แห่ง 18,168 เตียง ครองเตียง 21.2% และฮอสปิเทลอีก 39,027 เตียง ครองเตียง 19.5% แม้บางจังหวัดผู้ป่วยจะลดลง แต่ยังเตรียมพร้อมที่จะเปิด ภายใน 24-72 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม บางจังหวัดอาจมีการครองเตียงสูง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 รายต่อวัน หากเกิดการระบาด จำเป็นต้องใช้เตียงสีเหลืองหรือเตียงสีแดง และเตียงอาจไม่เพียงพอ
สำหรับจังหวัดที่มีการครองเตียงเกิน 70% มี 7 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ สตูล สิงห์บุรี และ สุราษฎร์ธานี
ได้ย้ำให้เตรียมเตียงเผื่อไว้ เนื่องจากมีการเปิดประเทศ มีการเดินทางมากขึ้น หรืออาจจะมีการระบาดจากสายพันธุ์โอไมครอน เพื่อไม่ให้มีปัญหาต้องส่งตัวผู้ป่วยข้ามจังหวัด
ขณะที่ใน กทม.มีผู้ป่วย 600-700 รายต่อวัน จำนวนเตียง 3.5 หมื่นเตียง ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเอกชน อัตราครองเตียง 23% และเป็นผู้ป่วยที่อาการไม่มาก ส่วนเตียงสีเหลืองและสีแดงจะอยู่ในภาครัฐ ภาพรวมถือว่าเพียงพอและสามารถขยายเพิ่มได้
ส่วนเตียงสีเขียวสำหรับผู้ป่วยไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย สามารถเพิ่มได้ไม่จำกัด จากระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation : HI)
หากประชาชนไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลแล้วพบผลบวกจะเข้าระบบ HI ได้รับอุปกรณ์ดูแลทั้งยา เครื่องวัดออกซิเจน วัดอุณหภูมิ และถุงยังชีพ เป็นเวลา 10-14 วัน หากอาการมากขึ้นจะส่งต่อเข้าโรงพยาบาล
กรณีได้รับการตรวจเชิงรุกหรือตรวจด้วยตนเองแล้วพบผลบวกให้โทรสายด่วน 1330 หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับคำแนะนำการบริการที่เหมาะสม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอยง’ แนะ 3 ข้อ รับมือโอไมครอน สกัด’เดินมา’ เล็ดรอดพรมแดนธรรมชาติ
- สะพรึง!! หมอมนูญ วิเคราะห์ โอมิครอน แพร่ระบาดทั่วโลก เล่นงานทุกสีผิว แทนที่เดลตา
- โอไมครอน ระบาดแอฟริกาใต้ แซงหน้าเดลตา ‘หมอเฉลิมชัย’ หวังไม่รุนแรงมากกว่า